เวลาเราพูดถึงหุ้นธุรกิจโรงแรม เชื่อว่านักลงทุนไม่น้อยจะนึกถึงหุ้น CENTEL หรือ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน)
ที่นักลงทุนเข้าใจว่าธุรกิจหลักของบริษัท คือ การทำธุรกิจโรงแรม
แต่ในความเป็นจริงแล้ว รายได้หลักของ CENTEL มาจาก 2 ส่วนธุรกิจหลักด้วยกัน คือ
การทำธุรกิจโรงแรม และธุรกิจอาหาร
และธุรกิจอาหารมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของ CENTEL
จุดเริ่มต้นของ CENTEL เกิดในปี พ.ศ. 2526 โดยกลุ่มเซ็นทรัลฯ ต้องการขยายธุรกิจในเครือตัวเองให้มีความหลากหลายมากขึ้น
มาจบที่ธุรกิจโรงแรม และเปิดโรงแรมแห่งแรก คือ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์แอทเซ็นทรัลลาดพร้าว
ก่อนที่จะขยายธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตไปยังเมืองต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ
แต่การจะทำธุรกิจโรงแรมเพียงอย่างเดียวจะมีเรื่องของปัจจัยฤดูกาล เข้ามาเกี่ยวข้อง
พูดง่ายๆ คือ ช่วงที่เป็น High Season การท่องเที่ยวของไทย บริษัทก็จะมีรายได้เข้ามามาก
แต่ถ้าเป็นช่วง Low Season รายได้ของบริษัทก็จะลดน้อยลงไป
ดังนั้น โจทย์ของ CENTEL คือ การหาธุรกิจอะไรซักอย่างมาช่วยให้ปัจจัยฤดูกาล มีความเสี่ยงลดลง
คำตอบ ก็คือ ธุรกิจอาหาร
CENTEL จึงตั้งบริษัทลูกคือ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด มาทำธุรกิจร้านอาหารโดยเฉพาะ
และร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จสูงมากก็คือ "KFC" ที่ปัจจุบันมีมากถึง 337 สาขา
ธุรกิจอาหารของ CENTEL มีแบรนด์ที่หลากหลายและครอบคลุมทุกกลุ่มประเภทลูกค้า
เช่น เดอะ เทอเรส,อร่อยดี, เกาลูน, อาริกาโตะ, แกร็บ คิทเช่น บาย เอวี่ ฟู้ด
มิสเตอร์โดนัท, เคเอฟซี, อานตี้แอนส์, เปปเปอร์ลันช์, ชาบูตง, โคล สโตนครีมเมอร์, โยชิโนยะ, โอโตยะ, เทนยะ, คัตสึยะ, ราเมน คาเกทสึ อาราชิ
แต่แบรนด์หลักๆ จะประกอบไปด้วย 4 แบรนด์ด้วยกัน คือ KFC, Mister Donut, Auntie Anne's และ Ootoya
ถ้าเราไปดูผลประกอบการย้อนหลัง จะพบว่า
ในปี 2565 บริษัทมีรายได้ 18.21 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 398 ล้านบาท
ในปี 2566 บริษัทมีรายได้ 22.54 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.24 พันล้านบาท
ซึ่งสัดส่วนประมาณ 58% มาจากธุรกิจอาหาร ในขณะที่ธุรกิจโรงแรมมีสัดส่วนรายได้เพียง 40% (ที่เหลืออีก 2% มาจากธุรกิจอื่น)
- ย้อนรอยมหากาพย์ GameStop รายย่อยล้มยักษ์ หรือแค่ผลประโยชน์ฉาบฉวย
- เวเนซุเอลา ซิมบับเว ซูดาน ประเทศที่มีเงินเฟ้อมากที่สุดของโลกในปี 2567
- รู้จักดัชนี CSI300 Index ลงทุนหุ้นจีน 300 ตัวพร้อมกันได้ในตัวเดียว
หรือถ้าเราดูผลประกอบการล่าสุด ใน 1Q67
บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 6.38 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 755 ล้านบาท
โดยรายได้มาจากธุรกิจโรงแรม ประมาณ 3 พันล้านบาท
และรายได้จากธุรกิจร้านอาหาร ประมาณ 3.1 พันล้านบาท จะเห็นได้ว่าสัดส่วนรายได้ของธุรกิจอาหารมีมากกว่าธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นธุรกิจเริ่มต้นของบริษัท
นอกจาก จะช่วยลดปัญหาความเสี่ยงเรื่องปัจจัยฤดูกาลแล้ว
การทำธุรกิจร้านอาหาร ยังช่วยทำให้กระแสเงินสดของ CENTEL ดูดีอีกด้วย สาเหตุเป็นเพราะว่า ร้านอาหารเป็นธุรกิจประเภทเงินสด ทำให้มีการหมุนเวียนของกระแสเงินสดในแต่ละวัน ไม่ให้บริษัทขาดสภาพคล่อง
และยังเป็นการดึง Margin ของ CENTEL ให้มีเสถียรภาพอีกด้วย
พูดง่ายๆ คือ ถ้าเป็นช่วงหน้าท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรมจะมี Margin ที่ดีมากๆ
แต่ช่วง Low Season ธุรกิจโรงแรมจะมี Margin ที่ลดลง ซึ่งธุรกิจอาหารของ CENTEL จะช่วยดึง Margin ในภาพรวมให้ออกมาดูดีมากยิ่งขึ้นกว่าที่จะหวังพึ่งแต่ธุรกิจโรงแรมเพียงอย่างเดียว
ราคาหุ้น CENTEL ย้อนหลังใน 6 เดือนที่ผ่านมา
https://www.tradingview.com/symbols/SET-CENTEL/
ต้องยอมรับว่า CENTEL เป็นหุ้นธุรกิจโรงแรมที่มีแบรนด์แข็งแกร่งอยู่ในตัว
และยังมีธุรกิจร้านอาหารที่หลากหลายครอบคลุมทุกกลุ่มผู้บริโภค จึงไม่แปลกใจที่จะเป็นหุ้นพื้นฐานดีในใจของนักลงทุนไทยหลายๆคน
ด้วยพื้นฐานของหุ้นที่แข็งแกร่ง สอดคล้องกับราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
โดยใน 6 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมาแล้ว +8.3% โดดเด่นกว่า SET Index ค่อนข้างมาก
และการที่ผลประกอบการล่าสุดออกมาดูดี ทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสที่จะ Outperform ตลาดในระยะสั้น
อีกทั้งบทวิเคราะห์หลายแห่งมีมุมมองต่อหุ้น CENTEL ไปในเชิงบวก
เชื่อว่าในระยะยาวแล้ว ถือเป็นหุ้นโรงแรมอีกบริษัทที่นักลงทุนไม่ควรมองข้ามในระยะยาว ...
แถมข้อมูลที่น่าสนใจในธุรกิจอาหารของ CENTEL
ถ้าเราไปเวียดนาม จะเริ่มเห็นร้านกาแฟ Cafe Amazon ในเวียดนามมากขึ้น
ซึ่ง Cafe Amazon ในเวียดนามเกิดจากการร่วมทุนกันของ OR ถือหุ้น 60% และ CRG (เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป) ถือหุ้น 40%
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการไตรมาสที่ 1/2567 : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน)