ต้องยอมรับว่าภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจไทยออกมา "ต่ำคาด" และน่าผิดหวัง
อย่างเช่นในเดือน ธันวาคม ปี 2566 ที่ผ่านมา
เงินเฟ้อไทย -0.44% ต่ำสุดรอบ 33 เดือน ครองตำแหน่ง ต่ำสุดในอาเซียนและรั้งท้าย อันดับ 8 ของโลก
วันนี้จะมีรายงานเงินเฟ้อของเดือน มกราคม ปี 2567 ซึ่งหลายสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจ มองว่าน่าจะอยู่ที่ -0.82% YoY
ซึ่งคิดเป็นการหดตัวต่อเนื่อง 4 เดือนติดต่อกัน และ Core CPI +0.6% YoY ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำ
พูดง่ายๆ คือ ทิศทางตัวเลขเศรษฐกิจไทยออกมา "ไม่ดี"
และน้อยกว่าที่คาดกันเอาไว้ก่อนหน้ามาก ไม่ว่าจะเป็นโครงการ E-refund ที่ไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจมากเท่าไรนัก
และโครงการ Digital Wallet ก็ยังไม่มีความชัดเจน
คำถาม คือ การที่เงินเฟ้อติดลบ แบบนี้ บอกอะไรเรา ?
คำตอบ คือเงินเฟ้อไทยที่หดตัวติดต่อกันหลายเดือน สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยซบเซา เป็นอย่างมาก
จริงๆแล้วเงินเฟ้อไทยก็เคยติดลบด้วยเหมือนกัน แต่อยู่ในสภาวะที่อัตราดอกเบี้ยไทยอยู่ที่ 1.2%
ในขณะที่เวลานี้เงินเฟ้อติดลย แต่ดอกเบี้ยไทยยังอยู่ในระดับสูงถึง 2.5%
- ETF - Exchange Traded Fund โอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในภาวะเงินเฟ้อ
- ทำไมเราถึงควรเพิ่มการลงทุนใน "Digital Asset"
- ลงทุนในกอง REIT ปี 2567
ดังนั้น เราอาจจะเห็นธนาคารกลางของไทยมีการลดดอกเบี้ยเร็วๆนี้ ...
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า ช่วงเวลาการลดดอกเบี้ยของ กนง. อาจจะปรับลดตาม FED คือ กลางปี 2567
และอาจจะเห็นการปรับลด 1-2 ครั้ง ในปีนี้
โดยคาดว่าดอกเบี้ยของไทยน่าจะอยู่ที่ 2% ไปจนถึงสิ้นปี 2567 พร้อมกับส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายทางการเงินมากขึ้น
ไม่เพียงแค่นั้น เราอาจจะเห็นแพคเก็ตกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบางที่มากขึ้น
และความหวังของรัฐบาลดูเหมือนจะเป็นโครงการ Digital Wallet
อย่างไรก็ตาม เราต้องเข้าใจก่อนว่า แม้เราจะเห็นการลดอัตราดอกเบี้ย
รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆที่น่าจะมากกว่าเดิม แต่ปัจจัยภายนอกก็ยังดูไม่ดี
โดยเฉพาะความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ที่กดดันตลาดหุ้นทั่วโลก อาจจะหนุนให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น
การบริโภคของประชาชนก็จะตกลงอยู่ดี
ประเด็นเหล่านี้ เราในฐานะนักลงทุนยังต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดครับ ...
------------------------------------------------------------------------------
Reference
ไทยรัฐออนไลน์