AOT หรือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
ถือเป็นอีกหนึ่งหุ้นใหญ่ในตลาดหุ้นไทยที่นักลงทุนให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก
แต่ช่วงหลังที่ผ่านมา ราคาหุ้นปรับตัวลงมามาก
โดย ลดลงไปแล้วกว่า -20% ในรอบ 12 เดือน
หรือถ้าใครถือระยะยาวมากว่า 5 ปี จะต้องขาดทุนไปแล้วกว่า -13%
หรือถ้าเรามองระยะสั้น ถือ 6 เดือน ก็จะขาดทุนไปประมาณ -15%
ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า เกิดอะไรขึ้นกับหุ้น AOT ?
คำตอบ น่าจะมาจาก 4 ปัจจัยหลักด้วยกัน คือ
1. ผลประกอบการที่ขาดทุนอย่างมากในช่วง COVID-19
ในช่วงโควิด AOT ขาดทุน 2 ปี ติดต่อกัน คือ ปี 2564 และปี 2565
จากรายงานของตลาดหลักทรัพย์ รายงานว่า
ปี 2564 บริษัทขาดทุนสุทธิ 16.32 พันล้านบาท
ปี 2565 บริษัทขาดทุนสุทธิ 11.08 พันล้านบาท
และพลิกกลับมากำไรอีกครั้งในปี 2566 โดยผลประกอบการ 9 เดือน มีกำไรสุทธิอยู่ 8.79 พันล้านบาท
2. การไม่ได้จ่ายปันผลในปี 2564-2565
หุ้น AOT ถือเป็นหุ้นที่มี Business Model แข็งแกร่ง
นักลงทุนจึงคาดหวังว่า AOT จะเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอ
แต่ปรากฏว่าในช่วงโควิด บริษัทมีผลขาดทุน ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้
เมื่อบริษัทไม่ได้จ่ายเงินปันผล นักลงทุนบางส่วนจึงมองว่าเป็นความเสี่ยงจึงเทขายออกมาก่อน
เพื่อรอดูสถานการณ์ และนี้เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ว่าทำไมราคาหุ้นลง
3. ตลาดปรับประมาณการหุ้น AOT ลง จากจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง
อ้างอิงจากบทวิเคราะห์หยวนต้า มองว่า ตลาดปรับผลประกอบการของ AOT ลงประมาณ -13%
หลังบริษัทมองว่าจำนวนผู้โดยสารน่าจะมีลดลง
4. ความเสี่ยงที่ผู้เช่าพื้นที่ไม่สามารถชำระค่าตอบแทนได้ตามสัญญา
AOT ได้มีการขยาย Credit Term การชำระส่วนต่างผลตอบแทนที่คิดตามสัญญาจริงตั้งแต่เมศสยน 2567
รวมถึงภาครัฐพิจารณายกเลิกดิวตี้ฟรีขาเข้า กระทบต่อรายได้ King Power ผู้ประกอบการรายสำคัญของ AOT
ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราวๆ 40-60% หรือคิดเป็นการกระทบต่อรายได้ประมาณ 8 พันล้านบาทต่อปี
เรียกได้ว่าหุ้น AOT ราคาหุ้น Underperform ตลาดและกลุ่มท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ...
- ส่องเหตุผลหุ้น OR ทำไมราคาหุ้น -7% ใน 1 เดือน
- ผลประกอบการของ BJC กำลังดูดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไมราคาหุ้นถึง -40% ใน 1 ปี
- จะดีแค่ไหน ถ้าเราสามารถซื้อ 5 หุ้นชั้นนำของสหรัฐ ผ่านตลาดหุ้นไทย
อ่านมาถึงตรงนี้ เราอาจจะสงสัยว่า ณ ระดับราคาปัจจุบัน เป็นราคาที่น่าสนใจแล้วหรือยัง
คำตอบ คือ มีความน่าสนใจ ...
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า มองว่า ตลาดอาจจะมีการปรับ Valuation ใหม่ ไม่ให้มีพรีเมี่ยมสูงเหมือนในอดีต แต่ด้วยราคาหุ้นปัจจุบันถือว่าลดลงเยอะ สะท้อนปัจจัยลบไปเยอะแล้วและสภาวะตลาดที่มีความเสี่ยงสูง
มองว่าจังหวะนี้เป็นโอกาสสำหรับการสะสมเพื่อการลงทุนระยะยาว
... โดยฝ่ายวิจัย มองว่า กำไรที่กำลังจะประกาศออกมา จะเติบโตอย่างโดดเด่น
โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 4 พันล้านบาท เติบโต +38% QoQ และ +1,051% YoY จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติและการเพิ่มขึ้นของรายได้สัมปทาน
ส่งผลให้ผลประกอบการเต็มปี น่าจะอยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตประมาณ +139% YoY
และยังมีโมเม้นตัมผลประกอบการที่เติบโตส่งต่อไปยังไตรมาสหน้าอีกด้วย จากช่วง High Season ของนักท่องเที่ยว และการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะประเทศจีน
สอดคล้องกับบทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส ที่มองว่าผลประกอบการของ AOT จะยังเติบโตอย่างโดดเด่น
และมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึง 2Q67
มองว่า AOT คือตัวเลือกที่ดีในกลุ่มท่องเที่ยว จากภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัว และมีจุดแข็งจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ปัจจุบันโครงสร้างทางการ AOT มี D/E ที่ 0.7 เท่า และ ROE 19% สูงกว่าหุ้นท่องเที่ยวอื่นๆที่มี ROE เฉลี่ย 15%
อย่างไรก็ตาม มีโอกาสก็ตามมาด้วยความเสี่ยง ...
ฝ่ายวิจัยเอเชียพลัส มองว่าหุ้น AOT มีความเสี่ยง 3 ข้อด้วยกัน คือ
1. การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว อาจแตกต่างจากที่คาดไว้
2. คู่ค่าอาจจะมีการปรับแก้สัญญาเช่าพื้นที่ใน AOT
3. Profit Margin ที่อาจจะลดลง
ทั้งนี้ เราต้องไม่ลืมว่า ราคาหุ้น AOT ปรับตัวลงมาแล้ว -20% ใน 12 เดือน
สะท้อนความกังวลไปแล้วระดับหนึ่ง
อีกทั้งแนวโน้มผลประกอบการก็ฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่น
จังหวะนี้ หลายบทวิเคราะห์จึงมองว่าเป็นโอกาสเพื่อการลงทุนระยะยาว มากกว่าที่จะมองระยะสั้น ...
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า