สิ่งหนึ่งที่น่าติดตามสำหรับนักลงทุนหุ้นระยะยาว คือ "แผนการลงทุน"
โดยเฉพาะในหุ้น PTT ที่มีนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากแล้ว ยิ่งต้องติดตามว่า แผนการลงทุนของ ปตท. จะเป็นไปในแนวทางไหน
ล่าสุด ทาง PTT ได้แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ถึงแผนการลงทุนในอีก 5 ปีข้างหน้า ด้วยวงเงินกว่า 8.92 หมื่นล้านบาท
![](https://cdn.stock2morrow.com/images/zz3Vr/1703730369867.png)
โดยจะยังคงเน้นในธุรกิจก๊าซ ประมาณ 58% และการลงทุนในบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% ประมาณ 31%
รองลงมาจะเป็นธุรกิจใหม่ และธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ
PTT ยังแจ้งอีกด้วยว่า ยังคงลงทุนในธุรกิจหลัก (Core Business) เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ
โดยลงทุนแผน 5 ปี ใช้งบประมาณ 51% ในโครงการหลัก เช่น โรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 7 เพื่อทดแทนโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 1 และโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 8 รวมถึงโครงการท่อส่งก๊าซบางปะกง - โรงไฟฟ้าพระนครใต้ และโครงการบนบกเส้นที่ 5
นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในธุรกิจใหม่ ที่ ปตท. ถือหุ้น 100% เช่น โครงการยานยนต์ไฟฟ้า EVme แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อการใช้รถยนต์ไฟฟ้าครบวงจร
โครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Horizon Plus โครงการประกอบแบตเตอร์รี่ Cell To Pack
รวมถึงโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระบะที่ 3 และโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3
นอกจากนี้ ปตท. ยังได้จัดเตรียมงบลงทุนในโครงการที่อยู่ระหว่างหาโอกาสลงทุนในอนาคต (Provisional Capital Expenditure) ในระยะ 5 ปีข้างหน้าอีกจานวน 106,932 ล้านบาท โดยหลักเพื่อการขยายการลงทุนในช่วงการเปลี่ยนผ่านพลังงาน อาทิ การขยายการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นพลังงานเปลี่ยนผ่าน (Transition Fuel) โดยมุ่งเน้นการขยายโครงข่ายท่อส่งก๊าซธรรมชาติ และการขยายการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลวอย่างครบวงจร (LNG Value Chain)
ทั้งในประเทศและต่างประเทศ การขยายการลงทุนของธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลายในการสร้างถังเก็บผลิตภัณฑ์
รวมถึงมุ่งเน้นธุรกิจพลังงานสะอาดเพื่อไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เช่น การลงทุนในธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ (Life science) ซึ่งรวมถึง ธุรกิจยา ธุรกิจโภชนาการ และอุปกรณ์และการวินิจฉัยทางการแพทย์ ธุรกิจ AI & Robotics เพื่อเป้าหมายการเป็นผู้นาการให้บริการด้าน AI & Robotics ในอนาคต ตลอดจนการลงทุนในธุรกิจโลจิสติกส์ และโครงสร้างพื้นฐานโดยมุ่งเน้นการเชื่อมโยงระบบเครือข่ายขนส่งทั้งหมดของประเทศ
ถ้าเราดูก่อนหน้านั้น ต้องยอมรับว่าเงินลงทุน "ลดลง" ...
สาเหตุเป็นเพราะว่าทางกลุ่มลดการลงทุนในธุรกิจก๊าซลง รวมถึงการลงทุนในบริษัทร่วมทุนและบริษัทย่อยที่ถือหุ้นทั้งหมดก็ลดลง
อย่างไรก็ตาม ทาง PTT มีงบประกมาณชั่วคราวเพิ่มเติมอีก 1.07 แสนล้านบาท (Provisional CAPEX) ในช่วง 5 ปี นี้เพื่อโอกาสการลงทุนศึกษาความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนถ่ายด้านพลังงาน ตลอดจนลงทุนธุรกิจใหม่ๆ เพื่อไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
- Future Energy and Beyond กำลังจะเป็น New S-curve ใหม่ของ PTT
- สรุป PTT การเข้าสู่ New Growth Life Science และ EV Value Chain คืออะไร ?
- มูลค่าหุ้น เปลี่ยนไปตามสมมติฐานด้วย
โดยภาพรวม ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า ตกลงแล้วแผนการลงทุนใหม่
นักลงทุนควรมองประเด็นนี้อย่างไร ?
คำตอบ คือ มีมุมมองเป็นบวก ...
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กสิกรไทย วิเคราะห์ว่า แผนลงทุน 5 ปีใหม่ที่ลดลงที่ 1.1 หมื่นลบ.จะสร้าง upside ต่อมูลค่าหุ้น PTT ที่ราวๆ 0.4 บาท/หุ้น
แต่สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่า คือ เรื่องของ Single Pool gas Price ที่ยังเป็นประเด็นอยู่
คือการให้โรงแยกก๊าซใช้ต้นทุนก๊าซรวมจากทุกแหล่งแทนที่จะใช้เพียงราคาก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยอย่างเดียว โดยเราประเมินผลกระทบของนโยบาย Single Pool Gas Price ที่ 1.33 หมื่นลบ./ปี โดยคิดจากส่วนต่างระหว่างราคาก๊าซอ่าวไทยกับ Gas Pool Price ที่ 140 บาท/mmbtu
พูดง่ายๆ คือ บทวิเคราะห์มองว่าแผนการลงทุนระยะยาว 5 ปีของ PTT เป็นแผนที่น่าสนใจ และช่วยเพิ่มศักยภาพในอนาคต
แต่ผลตอบแทนที่เกิดขึ้น ก็ยังไม่สามารถทดแทนความเสี่ยงที่ยังไม่น่าดึงดูดจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบาย Single Pool Gas Price นั่นเอง
นักลงทุนต้องชั่งน้ำหนักแล้วครับ ว่าจะให้น้ำหนักตรงส่วนไหนมากกว่ากัน ?
------------------------------------------------------------------------------
Reference
แจ้งแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 2567 - 2571) ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน): ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย