ต้องยอมรับว่าหนึ่งในเป้าหมายระยะยาวของ PTT คือการหา New Growth 
พูดง่ายๆ คือ การมองหาการเติบโตรอบใหม่ ในกลุ่มธุรกิจใหม่
โดยคำว่ากลุ่มธุรกิจใหม่ จะต้องมีเป้าหมายอยู่ 3 อย่างด้วยกัน คือ 
1. ตั้งเป้าธุรกิจใหม่ จะต้องเป็นธุรกิจแห่งอนาคต 
2. ตั้งเป้าธุรกิจใหม่ ต้องเป็นสัดส่วนกำไรมากกว่า 30% ภายในปี 2573
3. การร่วมกับกลุ่มพันธมิตรที่แข็งแกร่ง และสอดคล้องกับฐานธุรกิจของ PTT

ถามว่า กลุ่มธุรกิจใหม่ที่น่าจะเป็นไปได้ คือธุรกิจอะไร ? 
คำตอบ คือ ธุรกิจ Life Science และธุรกิจ EV Value Chain

ธุรกิจ Life Science หรือธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต
ทางกลุ่ม PTT มีการจัดตั้ง บจ.อินโนบิก (เอเชีย) เป็นบริษัทแกน มีทุนจดทะเบียน 1.36 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันถือหุ้นอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ด้วยกันคือ
1. Lotus 
เป็นบริษัทจดทะเบียนในไต้หวัน ทำธุรกิจผลิตยาและจัดจำหน่ายครอบคลุมหลายกลุ่มโรค 
PTT เริ่มลงทุนในปี 2564 ถือหุ้นที่ราคา 80.7 เหรียญไต้หวัน (ปัจจุบันราคาหุ้น 324 เหรียญไต้หวัน) ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นถึง 300% สาเหตุเป็นเพราะรายได้และผลประกอบกรที่เติบโตราวๆ 43% YoY และ 168% YoY ตามลำดับ

2. บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) (IP)
เป็นบริษัทไทยจดทะเบียนในลาด MAI โดย PTT ถือหุ้น 20% 
ทำธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพ นวัตกรรมยา อาหารเสริมเพื่อสุขภาพสำหรับคนและสัตว์ 
แผนล่าสุด คือโรงพยาบาล โดยมีแผน Spin-Off ร้านขายยาและโรงพยาบาลจดทะเบียนต่อไป

3. บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (NAM)
เป็นบริษัทไทยที่กำลังยื่น Filling ทำ IPO ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดย PTT ถือหุ้น 20% 
ทำธุรกิจผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์ และให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร

• PTT กำลังมี New S-curve ใหม่ ที่น่าจับตามอง
• สรุป TBN ทำไมเข้าตลาด 3 วัน ถึงราคาฟลอร์
• รู้จัก KCG ผู้ผลิตเนยและชีสเบอร์ 1 ของไทย กำลังจะ IPO เร็วๆนี้
  
   

ธุรกิจ EV Value Chain หรือ ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร
ทางกลุ่ม PTT มีการจัดตั้ง บจ.อรุณพลัส เป็นบริษัทแกน มีทุนจดทะเบียน 2.75 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันถือหุ้นอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ด้วยกันคือ
1. Horizon Plus 
ร่วมทุนกับกลุ่ม Foxconn ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่สัญชาติไต้หวัน โดย PTT ถือหุ้น 60% และFoxconn ถือหุ้น 40%
ทำธุรกิจผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในไทย โดยจะเริ่มขายจริงในปีหน้า เริ่มต้น 5 หมื่นคันต่อปี

2. Nuovo Plus 
PTT ถือหุ้น 51% ร่วมกับ GPSC ถือหุ้น 49% ทำธุรกิจผลิตแบตเตอร์รี่ไฟฟ้าและการกักเก็บพลังงาน
ปัจจุบันร่วมมือกับ Gotion นำเข้า ประกอบและจัดจำหน่ายโมดูลแบตเตอร์รี่และชุดแบตเตอร์รี่ มีโรงงาน 1000 MWh และตั้งเป้าขยายเป็น 2000  MWh ต่อไป

3. EVME Plus
ให้บริการด้านดิจิทัลแพลตฟอร์มสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เช่น ให้เช่า หรือให้บริการสถานีอัดประจำไฟฟ้า

เรียกได้ว่าธุรกิจ New Growth หลักๆของ PTT มาจาก 2 กลุ่มธุรกิจข้างต้น
สิ่งที่เราต้องคิดต่อไป คือ ประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องระยะยาว 
ในระยะสั้น นักลงทุนอาจจะยังไม่เห็นผลประกอบการอย่างมีนัยสำคัญมากนัก

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ วิเคราะห์ว่า Valuation ของ PTT ต่ำมาก ด้วย P/BV ระดับ 0.8 เท่า และอัตราเงินปันผลสูงถึง 6.3% 
ฝ่ายวิจัยเชื่อว่า ธุรกิจใหม่จะเป็น Key Drivers ที่จะค่อยเพิ่มขึ้นในอนาคต และช่วยยกระดับการทำกำไรในระยะยาวของ PTT ต่อไป

หุ้น PTT ถือเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่พื้นฐานดีมากๆ 
และนักลงทุนไม่ควรมองข้ามครับ ...

------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์