โดยปกติแล้ว ในสภาวะที่ดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ
ภาคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด น่าจะเป็นภาคธุรกิจ เพราะต้นทุนทางการเงินสูง ไม่จูงใจให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ
แต่คงไม่ใช่สำหรับ CPN หรือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
ที่บทวิเคราะห์หลายแห่งมีมุมมองตรงกันว่า ไตรมาส 3 นักลงทุนจะได้เห็นผลประกอบการทำ "จุดสูงสุดใหม่"
ประเด็นคือ CPN ทำได้อย่างไร ?
CPN ทำธุรกิจพัฒนาและให้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้าขนาดใหญ่และประกอบธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องและส่งเสริมธุรกิจ พัฒนาศูนย์การค้า
เช่น อาคารสำนักงาน ศูนย์อาหาร โรงแรม และที่พักอาศัย
ผลประกอบการของบริษัทที่ผ่านมา พบว่า ...
ปี 2562 บริษัทมีรายได้ 38.40 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 11.73 พันล้านบาท
ปี 2563 บริษัทมีรายได้ 33.16 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 9.55 พันล้านบาท
ปี 2564 บริษัทมีรายได้ 30.39 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 7.14 พันล้านบาท
ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 38.71 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 10.75 พันล้านบาท
ปี 2566 ผลประกอบการ 6 เดือน บริษัทมีรายได้ 22.23 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 6.92 พันล้านบาท
จะเห็นได้ว่า CPN มีอัตรากำไรสุทธิที่อยู่ในระดับสูงมาก ราวๆ 30%
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เคจีไอ มีมุมมองว่า CPN จะรายงานผลการดำเนินงานอย่างน่าประทับใจด้วยกำไรสุทธิ 4.05 พันล้านบาท เติบโตสูงถึง +41% YoY และ 10% QoQ และเป็นการดำเนินงานแบบจริงๆ ไม่มีรายการพิเศษแต่อย่างไร
และรายได้จะอยู่ที่ 1.19 หมื่นล้านบาท เติบโต 32% YoY และ 10% QoQ
นับว่าเป็นผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวติดต่อกัน 8 ไตรมาสติดต่อกัน เท่ากับว่า CPN ได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วนับตั้งแต่เกิดวิกฤต CDVID-19
ฝ่ายวิจัยมีมุมมองว่า จำนวนลูกค้าเข้าห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับสูง
อัตราส่วนผู้เช่าอยู่ในระดับปกติ
ธุรกิจโรงแรมที่มี Occupancy Rate 65% และธุรกิจอสังหารมิทรัพย์ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
จากยอดโอนที่มากขึ้นในต่างจังหวัด
ดังนั้นบริษัทจะมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 52.1% จากเดิม 49.8%
- ตลาดหุ้นไทย ผ่านจุดต่ำสุดแล้วหรือยัง ?
- สูตรลับ Current Ratio สิ่งที่จะทำให้เรารู้ว่าบริษัทกำลังมีปัญหา
- จะเกิดอะไรขึ้น ? ถ้าอิสราเอล - ฮามาส ยังขัดแย้งต่อไปเรื่อยๆ
สำหรับผลประกอบการไตรมสาส 4 จะยังโมเมนตัมของการเติบโตต่อไป จากยอดโอนอสังหาริมทรัพย์
การเปิดห้างสรรพสินค้าใหม่ Central Westville และ Central ระยอง
อีกทั้งในปี 2567 จะเปิดตัวห้างสรรพสินค้าใหม่ที่นครสวรรค์ นครปฐม และกระบี่
ส่วนโครงการขนาดใหญ่ คือ Dusit Central Park จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2568
โดยสรุป CPN จะยังเติบโตต่อไป จาก 4 แนวทางหลักๆ คือ
1. การเปิดประเทศไทยเต็มรูปแบบ การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
2. โมเมนตัมเชิงบวกจากการลงทุน การเปิดห้างสรรพสินค้าใหม่
3. การลงทุน M&A ใน SF (สยามฟิวเจอร์)
4. การควบคุมค่าใช้จ่าย SG&A ที่บริษัททำได้ดีมากๆ
ดังนั้น แนวโน้มผลประกอบการของ CPN จะยังเติบโตได้ต่อไปอีกหลายปี
โดยเฉพาะปี 2568 ที่จะมีโครงการเปิดตัว Dusit Central Park
เรียกได้ว่า CPN เติบโตได้ ในสภาวะที่ดอกเบี้ยไม่เป็นมิตรกับผู้ทำธุรกิจจริงๆ ...
ปัจจุบัน หุ้น CPN มี P/E อยู่ที่ 22.17 เท่า และ P/BV 3.35 เท่า และอัตราเงินปันผลราวๆ 1.84%
อนึ่ง ราคาหุ้น CPN ปรับตัวลงมาแล้วกว่า -13% ใน 11 เดือน
หรือถ้าเรามองระยะยาวแล้ว จะพบว่าราคาหุ้นปรับตัวมากกว่า -22% ใน 5 ปี
ณ เวลานี้ อาจจะนับเป็น "โอกาส" ที่น่าสนใจในการทำความเข้าใจหุ้น CPN ให้มากขึ้น
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เคจีไอ