เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ลาร์รี ฟิงก์ (Larry Fink) ซีอีโอ กลุ่มบริษัท BlackRock ผู้นำในการบริหารการเงิน และการลงทุนของโลกเป็นรายแรก เพื่อศึกษาแนวทางการลงทุนในประเทศไทย ทั้งการลงทุนขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ โดยเฉพาะการสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวกับพลังงานสะอาดเพื่อขยายฐานการลงทุน และการผลิตในประเทศไทย

ประเด็นข่าวนี้ถือว่าน่าสนใจอย่างมาก เพราะกองทุน BlackRock เป็นกองทุนขนาดใหญ่ที่มีทรัพย์สินภายใต้การจัดการบริหารมากถึง 9.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเป็นเงินไทยประมาณ 337.6 ล้านล้านบาท
พูดง่ายๆ คือ สินทรัพย์ที่ BlackRock บริหาร มีขนาดใหญ่กว่า GDP ประเทศไทยมากถึง 19 เท่า

จริงๆแล้ว กองทุน BlackRock มีกองทุนที่ลงทุนในประเทศไทยอยู่ด้วยเหมือนกัน ในชื่อ iShares MSCI Thailand ETF 
โดยเริ่มเข้ามาลงทุนตั้งแต่ปี 2551 จากการคัดเลือกหุ้นเข้าพอร์ตประมาณ 141 ตัว

คำถาม คือ ในพอร์ต iShares MSCI Thailand ETF มีหุ้นอะไรอยู่บ้างที่น่าสนใจ 10 อันดับแรก ..

โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นกลุ่มหุ้นที่นักลงทุนคุ้นตากันเป็นอย่างดี เช่น
CPALL ถือสัดส่วนมากถึง 6% 
รองลงมาเป็น DELTA และ PTT ที่ถือสัดส่วนประมาณ 5.63%

จากข้อมูล FundFact ของรายงานบอกว่า กองทุน iShares MSCI Thailand ETF 
มีสัดส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานสูงถึง 13.27%
รองลงมาเป็น กลุ่มสินค้าอุปโภค บริโภค ราวๆ 12.43%
และกลุ่มการแพทย์ประมาณ 9.41%

ปัจจุบัน ค่า P/E Ratio ของกองทุนอยู่ที่ 13.96 เท่า และ P/BV Ratio อยู่ที่ 1.73 เท่า
ในขณะที่ SET Index มี P/E Ratio อยู่ที่ 20.83 เท่า และ P/BV Ratio อยู่ที่ 1.47 เท่า

• COM7 จากธูรกิจขายสินค้า IT กำลังหันไปขายรถ EV มากขึ้น
• โอกาสของหุ้นไทย ใน 12 เดือนข้างหน้า 
• สรุปประเด็น SCB เกิดอะไรขึ้นราคาหุ้น -5% ในวันเดียว และน่ากังวลแค่ไหน ?

------------------------------------------------------------------------------
Reference
THE STANDARD WEALTH

Thairath Money

Blackrock.com