ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ หุ้นที่กลับมาเป็นที่สนใจและถูกพูดถึงในห้องค้าตลาดหุ้นมากที่สุด น่าจะเป็นหุ้นยางพารา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ STA หรือ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน)
ต้องยอมรับว่าปีนี้ ไม่ใช่ปีที่ดีเท่าไรนักของธุรกิจยางพารา
ไม่ว่าจะวัดจากผลประกอบการหรือราคาหุ้น
หุ้น STA ปรับตัวลงไปแล้วกว่า -25% ในรอบ 12 เดือน
สอดคล้องกับผลประกอบการที่ลดลงตั้งแต่ปี 2565
ในปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 9.53 พันล้านบาท
ในปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 15.84 พันล้านบาท
ในปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 4.79 พันล้านบาท
และงบ 6 เดือน ปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 397 ล้านบาท เท่านั้น
เรียกว่ากำไรหายไปค่อนข้างมาก
แต่ช่วง 5 วันที่ผ่านมา หุ้น STA ปรับตัวขึ้นมาอย่างโดดเด่นกว่า 13%
คำถามคือ เกิดอะไรขึ้นกับหุ้น STA
คำตอบ น่าจะเป็นประเด็นเรื่องของ ยานยนต์ EV ที่คนเริ่มหันมาใช้มากขึ้น
และการใช้รถ EV ที่มากขึ้น จะเป็นการหนุนใช้ยางมากขึ้นตามไปด้วย
ประกอบกับปรากฏการณ์ภัยแล้ง เป็นสาเหตุให้ราคายางพุ่ง
โดยตลาด SICOM พุ่งขึ้นมา +3% มาอยู่ที่ 135 เซนต์ต่อกิโลกรัม
และประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกยางพารารายใหญ่จะได้รับอานิสงค์นี้ไปเต็มๆ
- รู้จัก TACC ผู้ผลิตเครื่องดื่ม ในโถกด และ All Cafe ให้กับ 7-Eleven
- รู้จัก SISB ธุรกิจโรงเรียนอินเตอร์ รายได้ทรงตัวแต่กำไรเพิ่มมากขึ้น ทำได้อย่างไร ?
- สรุป OR ธุรกิจใหม่ Health & Tourism จะเป็น New Growth ของอนาคต
แต่การจะบอกว่า STA ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ?
ก็อาจจะเป็นการด่วนสรุปจนเกินไป
สาเหตุเป็นเพราะว่าผลประกอบการไตรมาส 3 อาจจะไม่ได้ดีอย่างที่คิด
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ทรีนีตี้ วิเคราะห์ว่ายอดขายยางธรรมชาติใน 3Q66 น่าจะอ่อนตัวลง 10% QoQ จากลูกค้ายังมีสต๊อคสินค้ายางไว้อยู่ และเป็นช่วงระบายสินค้าออก
อีกทั้งกลุ่มลูกค้าจากจีน มีการกักตุนยางธรรมชาติจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มียางธรรมชาติเพื่อใช้ผลิตยางล้อมีอยู่มาก
อีกทั้งผลประกอบการครึ่งแรกของ STA ออกมา "ไม่น่าประทับใจ"
และตลาดกำลังมองว่ากำไรเต็มปีของ STA มีแนวโน้มลดลงทั้งจากปริมาณขายลดลง รวมถึงราคาขายก็ลดลงตามไปด้วย ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นไม่ได้ดีเหมือนในอดีต
ฝ่ายวิจัยเชื่อว่า กำไรของปี 2566 น่าจะอยู่ราวๆ 577 ล้านบาท
และในปี 2567 น่าจะอยู่ที่ 254 ล้านบาท
พูดง่ายๆ คือ การขึ้นมาในช่วง 5 วันมานี้
เป็นการพุ่งตามข่าวดีของกระแสรถ EV
แต่ถ้าเราวัดจากปัจจัยพื้นฐาน จะพบว่า STA ยังมีอุปสรรคในเรื่องผลประกอบการไม่ได้ดีเหมือนที่ผ่านมา
สิ่งที่ตลาดดูอยู่ตอนนี้ คือ ผลประกอบการไตรมาส 4 ว่าจะออกมาฟื้นตัวดีแค่ไหน
ถ้าออกมาดีและมีเซอร์ไพรส์ตลาด เชื่อว่าตลาดจะให้มูลค่าสูงขึ้นเหมือนช่วงโควิดที่ผ่านมานี้ครับ
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ทรีนีตี้