ถ้าใครสังเกตเห็นช่วงนี้จะพบว่า หุ้นโรงพยาบาลอย่าง BH หรือบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)
ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นมาอย่างโดดเด่น
โดยใน 1 ปี ราคาหุ้นบวกขึ้นมาแล้วกว่า +40%
ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า เกิดอะไรขึ้นกับหุ้น BH
คำตอบ น่าจะมาจาก 2 ประเด็นด้วยกัน คือ
1. ผลประกอบการ 2Q66 ที่เติบโตได้อย่างน่าประทับใจ
ผลประกอบการของ BH ออกมาดีกว่าที่คาดไว้มาก
โดย 2Q66 กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.74 พันล้านบาท เติบโต 50% YoY จาก 3 เหตุผลด้วยกัน คือ
... การรักษาผู้ป่วยซับซ้อนของโรคเพิ่มขึ้น
... การปรับราคาขึ้น
... จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น และอยู่นานขึ้น
ส่งผลให้รายได้เพิ่ม อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่ม และสัดส่วน SG&A ต่อรายได้ลดลง
ที่น่าสนใจ คือ รายได้จากผู้ป่วยต่างชาติ อยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท (สัดส่วน 65% ของรายได้)
ต่อรายได้ของผู้ป่วยชาวไทย อยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท (สัดส่วน 35%)
ซึ่งรายได้จากผู้ป่วยต่างประเทศ เติบโตเกือบ +30% YoY โดยเฉพาะชาวตะวันออกกลางช่วยหนุนรายได้ของ BH อย่างมาก
- บริหารเงิน VS บริหารสุขภาพ
- ปัญหา ASTON ASOK กำลังทำให้ ANAN เกิดปัญหาสภาพคล่อง
- ทำไมนักลงทุนถึงชองหุ้น P/E สูง มากกว่าหุ้น P/E ต่ำ ?
2. อุปสงค์ของต่างชาติกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก การเพิ่มจำนวนเตียง ช่วยผลักดันผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี วิเคราะห์ว่า ผลประกอบการ 2Q66 แสดงให้เห็นโมเม้นตัมเชิงบวก
ฝ่ายวิจัย มองว่า ปัจจัยสนับสนุนเชิงบวก คือลูกค้าต่างชาติ ที่จะเดินทางเข้ามารักษาเพิ่มขึ้นไปจนถึงกลางปีหน้าเป็นอย่างน้อย
ซึ่งจะเป็นการรักษาที่ซับซ้อนส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นสูง ประกอบกับการปรับเพิ่มราคาขึ้น 6.6% จะช่วยผลักดันกำไรให้เติบโตขึ้น
ฝ่ายวิจัย คาดว่า อัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ราวๆ 49%
ยิ่งไปกว่านั้น คือ การเพิ่มจำนวนเตียง ...
BH จะเพิ่มจำนวนเตียงเป็น 497 เตียง ใน 3Q23 และเพิ่มเป็น 506 เตียงใน 4Q23 เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์อินโนเวสท์เอกซ์ มองว่าผลประกอบการ 2Q66 ออกมาได้อย่างประทับใจ
ทำให้ภาพรวมทั้งปีจะต้องมีการปรับกำไรที่เพิ่มขึ้น
สอดคล้องกับไตรมาส 3 ที่จะถึงนี้ ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าผลประกอบการจะยังออกมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์บัวหลวง วิเคราะห์ว่า ผลประกอบการใน 3Q66 ของ BH จะเติบโตจากชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปัจจัยฤดูกาลที่ดีกว่าไตรมาส 2
โดยจะเห็นรายได้จากการแพทย์เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด
ฝ่ายวิจัย มองว่า ในปี 2565 ผลประกอบการของ BH จะเติบโต 25%
และในปี 2567 จะเติบโตอีกราวๆ 20% หนุนโดยรายได้จากการแพทย์ และลูกค้าชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น
อีกทั้ง BH ไม่มีแผนการลงทุนใหญ่ๆในปีนี้ ดังนั้นถือเป็นอีกบริษัทที่มีเงินสดในมือจำนวนมาก
โดยสรุปปีนี้ถือเป็นอีกปีที่ดีของ BH
แต่เราต้องไม่ลืมว่าราคาหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นมาอย่างมากนั้น อาจจะมีแรงเทขายระยะสั้นได้
นักลงทุนอาจจะต้องระมัดระวังให้มากขึ้น ครับ
อนึ่ง BH ประกาศจ่ายเงินปันผล 1.35 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 24 สิงหาคม 2566
และจ่ายเงินปันผลวันที่ 6 กันยายน 2566 คิดเป็น Dividend Yield ที่ 0.6%
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์อินโนเวสท์เอกซ์
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการไตรมาสที่ 2/2566 : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย