นักลงทุนมือใหม่หลายๆคน มักจะจำว่า
เวลาซื้อหุ้น ต้องซื้อหุ้น P/E ต่ำๆ เพราะ หุ้น P/E ต่ำแสดงว่าหุ้นถูก
ในขณะที่หุ้น P/E สูง เป็นหุ้นแพง ไม่ควรซื้อ
แต่ในทางปฏิบัติจริง กลับใช้ไม่ได้
หมายความว่า หุ้นที่ P/E ต่ำ มันก็ยังต่ำอยู่อย่างนั้น ในช่วงที่ตลาดปรับตัวลง หุ้น P/E ต่ำอาจจะลงมากกว่าตลาดด้วยซ้ำ
ในขณะที่หุ้น P/E สูง มันก็สามารถสูงไปได้เรื่อยๆ ในช่วงที่ตลาดปรับตัวลง หุ้น P/E สูง อาจจะลงน้อยกว่าตลาด
เมื่อเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ ทำให้นักลงทุนเกิดเข้าใจว่า
นักลงทุนในตลาดชองหุ้น P/E สูง มากกว่าหุ้น P/E ต่ำ ?
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ?
ตกลงแล้วกลยุทธ์หุ้น P/E ต่ำ มันใช้ได้ผลจริงไหม ?
สาเหตุที่นักลงทุนชอบหุ้น P/E สูงมากกว่า จริงๆแล้วนักลงทุนไม่ได้ชอบหุ้นแพง
แต่เป็นเพราะว่าหุ้นที่มี P/E สูง อาจจะเป็นหุ้นที่มีการเติบโตมากกว่า
พูดง่ายๆ คือ นักลงทุนชอบการเติบโต มากกว่าหุ้นถูกๆ
ตัวอย่างเช่น บริษัท A มี P/E ที่ 10 เท่า แต่การเติบโตต่อปีเป็นเลขหลักเดียว นักลงทุนเลยมองว่าไม่น่าตื่นเต้น
และถ้าปีไหนกำไรตกลง หุ้น P/E ต่ำ ก็อาจจะกลายมาเป็น P/E สูงได้ เพราะกำไรลดลลง (ตัว E ซึ่งเป็นตัวหารลดลง ทำให้ P/E เพิ่มขึ้น)
ในขณะเดียวกัน บริษัท B มี P/E ที่ 20 เท่า แต่การเติบโต 30% นักลงทุนมองว่ากำไรโต เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น
เมื่อกำไรเติบโตต่อ หุ้นที่มี P/E สูง ก็จะกลายมาเป็นหุ้น P/E ต่ำได้เหมือนกัน เพราะกำไรเพิ่มขึ้น (ตัว E ซึ่งเป็นตัวหารเพิ่มขึ้น ทำให้ P/E ลดลง)
สรุปแล้ว หุ้น P/E สูง เป็นหุ้นที่นักลงทุนมองว่าจะเติบโต เลยมีความคาดหวังมาก
ในขณะที่หุ้น P/E ต่ำ นักลงทุนมองว่าไม่เติบโต ไม่ได้คาดหวังในแง่ของกำไรที่เพิ่มขึ้น
แต่การเข้าซื้อหุ้น P/E สูงก็มีความเสี่ยงด้วยเหมือนกัน
เพราะหลายๆครั้ง เมื่อกำไรโตจริง แต่กลายเป็นหุ้นลงหนัก สาเหตุเป็นเพราะว่านักลงทุนรับรู้ประเด็นไปแล้ว จึงขายเมื่อข่าวดีออก
เหตุการณ์นี้เราจะเรียกว่า Sell On Fact คือขายเมื่อบริษํทเติบโตเป็นอย่างที่คาดหวัง
หุ้น P/E สูง มีโอกาสที่ราคาหุ้นจะขึ้นต่อ
แต่โอกาส ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่จะถูกเทขายได้ทุกเมื่อ เหมือนกันครับ