#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน
#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

เจาะสาเหตุ KAMART ทำไมราคาหุ้นขึ้นกว่า 76% ท่ามกลางหุ้นไทยที่ผันผวนลง

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
2,454 views

ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยผันผวนไปในทางลง
มีให้เห็นไม่บ่อยนักที่หุ้นจะมีราคาหุ้นบวกสวนทางได้อย่างโดดเด่น
และไม่ใช่แค่การโดดเด่นธรรมดา แต่เป็นการโดดเด่นอย่างมาก
โดยบวกไปแล้วกว่า 76% ภายใน 8 เดือน
แต่ถ้านักลงทุนถือ 12 เดือน จะได้ผลตอบแทนสูงถึง 177% 
หุ้นตัวนั้น คือ KAMART หรือบริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) 
ประกอบธุรกิจนำเข้า และจัดจำหน่ายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง, กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า และผิวกาย, กลุ่มอุปกรณ์ความงาม, กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และอื่นๆ

 

คำถาม คือ บริษัททำเครื่องสำอางค์ที่อยู่ในอุตสาหกรรมไม่ได้แปลกใหม่
แต่ทำไมราคาหุ้นถึงสามารถ Outperform ได้อย่างโดดเด่น
คำตอบ น่าจะเป็นเรื่องของผลประกอบการที่เติบโต
และประเด็นเรื่องของการพยายาม Spin-off บริษัทลูก ระดมทุนรอบใหม่ สร้างการเติบโตรอบใหม่

 

ผลประกอบการของ KAMART ที่ผ่านมา พบว่า ...
ปี 2562 บริษัทมีรายได้ 1.52 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 261.24 ล้านบาท
ปี 2563 บริษัทมีรายได้ 1.32 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 132.82 ล้านบาท
ปี 2564 บริษัทมีรายได้ 1.50 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 292.87 ล้านบาท
ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 1.87 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 327 ล้านบาท
ไตรมาส 1 ปี 2566 บริษัทมีรายได้ 584.84 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 157.67 ล้านบาท
โดยบริษัทมีอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 20-27% ซึ่งถือว่าสูงมาก 
แน่นอนว่าผลประกอบการที่ออกมาเติบโตขึ้น
และในไตรมาส 2 ก็มีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้นไปอีก

 

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กสิกรไทย วิเคราะห์ว่า ผลประกอบการของ KAMART ใน 2Q66 น่าจะอยู่ราวๆ 112 ล้านบาท เติบโตมากถึง 145% YoY จากยอดขายที่แข็งแกร่ง
ถึงแม้จะมีสินค้าบางประเภทที่มียอดขายลดลงบ้าง และ SG&A ของบริษัทที่เพิ่มสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการฉบับจริงจะออกมาในวันที่ 11 สิงหาคม 2566 และเชื่อว่า KAMART น่าจะประกาศจ่ายปันผลอีก 0.05 บาท หรือคิดเป็น Yield ราวๆ 1.79%

 

 

ฝ่ายวิจัย ยังมองอีกด้วยว่า KAMART มีอุปสงค์ในสินค้าเครื่องสำอางค์ที่แข็งแกร่ง และแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เช่น Cathy Doll และ Baby bright 
การเปิดตัวสินค้าใหม่ Lip it จะช่วยกระตุ้นยอดขายให้มากขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น KAMART ยังมีปัจจัยอีก 2 ข้อที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม คือ 
1. การขยายกำลังการผลิต ไม่ว่าจะเป็น
... ก่อสร้างโรงงานใหม่ ใช้งบ 159.5 ล้านบาท
... การเข้าทำดีล M&A บริษัทเครื่องสำอางค์ทั้งในไทยและต่างประเทศ ใช้งบ 717.76 ล้านบาท
... การซื้อช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าในตลาดต่างประเทศ

 

2. การร่วมมือกับ Marubeni ในการ Spin off บริษัทลูกออกมา 
โดยตั้งเป้าเห็นผลใน 5 ปี
และมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินลงทุน สร้าง Project IRR ที่ไม่ต่ำกว่า 10% และมุ่งหวังขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยฌฉพาะเวงียดนามภายในปี 2567 
ฝ่ายวิจัยคาดว่า จะได้เห็น KAMART มีผลประกอบการที่เติบโต 2-3 เท่า ใน 3 ปี

ที่กล่าวมาทั้งหมด คือ ปัจจัยบวกที่ทำให้หุ้นขึ้นอย่างมาก
แต่ปัจจัยบวกที่เห็นได้ชัด กลับสะท้อนราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นมาอย่างมากแล้ว ...

 

ฝ่ายวิจัย วิเคราะห์ว่า KAMART มีปัจจัยบวกอยู่มากก็จริง และมีการปรับเพิ่มราคาเป้าหมายแล้ว
แต่กลับกลายเป็นว่า ราคาหุ้นปัจจุบันเกินกว่าราคาเป้าหมายอยู่พอสมควร 
อีกทั้ง P/E ที่เหมาะสมควรจะอยู่ราวๆ 18.5 เท่า 
ในขณะที่ปัจจุบัน KAMART  มี P/E สูงถึง 31.54 เท่า

ดังนั้น นักลงทุนควรจะระมัดระวังและทำความเข้าใจก่อนการเข้าลงทุน ทุกครั้งครับ

------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กสิกรไทย

ผลประกอบการสำคัญ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง