ถ้าเราพูดถึงปรากฏการณ์ธรรมชาติ
คนหลายๆคนมักจะเข้าใจว่า ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ 
เหมือนอย่างปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่กำลังจะเกิดขึ้น

ถ้ามองอย่างผิวเพิน ก็อาจจะเข้าใจว่าไม่เกี่ยวอะไรกับเศรษฐกิจ
แต่ถ้าเราพิจารณาในเชิงลึก จะพบว่า มีความเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน

คำถาม คือ ปัญหาเอลนีโญ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและหุ้นไทยอย่างไร และในแง่ไหนบ้าง ?

เอลนีโญ (El Niño) คือ ปรากฏการณ์ที่กระแสลมมีกำลังอ่อนและเปลี่ยนทิศทาง 
โดยพัดจากด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก ไปยังด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้กระแสน้ำอุ่นไหลไปยังทวีปอเมริกาใต้แทน 
ซึ่งเอลนีโญจะส่งผลทำให้พื้นที่บริเวณทวีปเอเชียและทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนียประสบกับสภาวะแห้งแล้ง ในขณะที่ทวีปอเมริกาใต้จะเกิดฝนตกชุก

เมื่อไม่นานมานี้ กรมอุตุฯ ประกาศเตือน เอลนีโญเตรียมเข้าอาเซียนช่วงครึ่งปีหลังนี้ 
หลายฝ่ายคาดไทยแล้งหนัก เศรษฐกิจถดถอย และอาจประสบหมอกควันข้ามพรมแดนจากไฟป่าอาเซียน
เมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคมที่ผ่านมา คนไทยประสบกับอากาศร้อนจัด โดยในวันที่ 15 เมษายน สถานีตรวจวัดของกรมอุตุนิยมวิทยาจังหวัดตากวัดค่าอุณหภูมิสูงสุดได้ 44.6 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าสถิติที่สูงที่สุดนับตั้งแต่สถิติในปี 2559 และเป็นสถิติที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organization: WMO) 
ได้ออกมาประกาศเตือนถึงปรากฏการณ์เอลนีโญที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทว่ายังไม่มีการคาดการณ์ถึงความรุนแรงและระยะเวลาของเอลนีโญ 
... แม้ว่าในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนกันยายน 2562 – กุมภาพันธ์ 2566  ภูมิภาคของเราเผชิญกับสภาวะลานีญา แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในไทยนั้นดูเหมือนจะสวนทางกับสิ่งที่ควรจะเป็น เนื่องจากเราอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัดมาโดยตลอดดังจะเห็นได้จากสถิติอุณหภูมิสูงสุดที่เริ่มเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนของปี 2564 มาจนถึง 2566

• สรุป CPAXT ผลประกอบการที่ทรงตัว แต่ทำไมนักลงทุนถึงผิดหวัง ? 
• สรุปผลประกอบการ KEX ใน 2Q66 ขาดทุนพันล้านจากต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และการแข่งขันที่ยังรุนแรง
• หุ้นมหาชน กับ หุ้นไม่มหาชน 

กลับมาที่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในหุ้นไทย 
เหตุผล คือ เอลนีโญจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพาธรรมชาติ "น้ำ" คือประเด็นแรก 
ความแห้งแล้งจะส่งผลกระทบต่อระดับน้ำในคลองที่ขุดเพื่อใช้ในการขนส่ง หรือการส่งออกนำเข้าระหว่างประเทศ

ลำดับต่อมา คือ ลม 
จะส่งผลให้ประเทศแถบออสเตรเลีย อินโดนีเซีย รวมถึง ไทย ร้อนขึ้น ในขณะที่ยุโรปตอนเหนือจะมีสภาพอากาศเย็นกว่าปกติ 
อุปสงค์ด้านอาหารและพลังงานในทั้งสองทวีปนี้จะมีการเปลี่ยนแปลง และเมื่อทั้งน้ำและลมเปลี่ยนผลผลิตทางการเกษตรทั่วโลกจะได้รับผลกระทบ 
ปริมาณที่ผลิตข้าว ปุ๋ย ยางพารา ปาล์มน้ำมัน น้ำตาล หรือถั่วเหลืองจะลดลง ราคาจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น 
กระทบต้นทุนด้านการเกษตรอื่น ๆ เช่น ปศุสัตว์ เป็นต้น

พูดง่ายๆ สิ่งที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบ 3 ด้านด้วยกัน คือ 
1. ต้นทุนด้านขนส่ง และพลังงานเพิ่มสูงขึ้น
2. ต้นทุนการเกษตร ราคาอาหารสัตว์ปรับตัวสูงขึ้น ราคาหมูและไก่จะแพงขึ้นอย่างมาก 
3. อาหารแพง น้ำตาลแพง การบริโภคน้ำสะอาดจะมีมากขึ้น

ประเทศไทย ถือเป็นประเทศแห่งการเกษตร ที่มีบริษัทจดทะเบียนทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับการเกษตรอยู่เยอะมาก
ดังนั้น หุ้นหลายๆตัวจะได้รับอานิสงค์ในเชิงบวกต่อปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่เกิดขึ้น
และหุ้นหลายๆตัว ก็อาจจะได้รับผลกระทบในเชิงลบต่อปรากฏการณ์เอลนีโญ ได้ด้วยเหมือนกันครับ ...