เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พรรคเพื่อไทยจะได้จัดตั้งรัฐบาล และดึงพรรคร่วมรัฐบาลกลุ่มใหม่เข้ามา เช่น พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคประชาชาติ เป็นต้น 
ซึ่งจะได้เสียงกึ่งหนึ่งของสภา 375 เสียง
และจะมีการโหวตนายกวันที่ 4 สิงหาคม 2566 ที่จะถึงนี้

คำถาม คือ ตลาดหุ้นมองอย่างไร ? 
คำตอบ คือ มองไปในทิศทางเชิงบวก ...
ลดความกังวลเรื่องสุญญาการศทางการเมือง และจะทำให้ SET Index ตอบสนองต่อปัจจัยบวกที่กำลังจะเกิดขึ้น เช่น
การกระตุ้นเศรษฐกิจ กระเป๋าเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท การปรับเพิ่มค่าแรง 600 บาท
เงินเดือน ป.ตรี 2.5 หมื่นบาท รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย 
ธนาคารหมู่บ้านแห่งละ 2 ล้านบาท ชาวนารับ 3 หมื่นบาทต่อครัวเรือน เป็นต้น

• สรุปการเติบโตของ MGC ALPHAX เช่าซื้อยานยนต์หรูกำลังเป็นตัวขับเคลื่อนกำไรหลัก
• Stocks Challenge-เกมดวลหุ้น
• วิธีหลีกเลี่ยงการพอร์ตแตก...แบบเบสิก 

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า หุ้นที่เคยร่วงแรงมาก่อนหน้า 5 กลุ่ม มีโอกาสดีดตัวขึ้นแรง ประกอบไปด้วย 
1. กลุ่มหุ้นต้นทุนค่าแรง เช่น STEC CK 
2. หุ้นหวันการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น MTC JMT SAWAD
3. หุ้นทุนผูกขาด เช่น TRUE CPALL BJC CPN
4. หุ้นปรับสูตรค่าไฟ เช่น GULF BGRIM GPSC PTTGC 
5. หุ้นรับกระแสข่าว เช่น SIRI SC ADVANC PR9
จะได้รับกระแสข่าวเชิงบวก และดีดตัวขึ้นมาหลังจากลงแรงไปก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม ภาพที่ออกมาเหมือนจะราบรื่น 
แต่ในทางปฏิบัติจริง อาจจะไม่ได้ง่ายไปซะทีเดียว เช่น ท่าทีของ ส.ว. หรือแม้แต่การชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มการเมืองก็ฮาจจะเกิดขึ้นได้

โดยสรุปแล้ว ฝ่ายวิจัย มองว่าสุญญากาศทางการเมืองไม่น่าจะเกิดขึ้นแล้ว และความกังวลทางการเมืองน่าจะเบาบางลง
ต่อจากนี้ คือ ท่าทีของ ส.ว. และการชุมนุมทางการเมืองที่มีโอกาสสูงมากจะเกิดขึ้นได้
และอาจจะกลายมาเป็นปัจจัยลบต่อ SET Index ได้ในระยะต่อไป ครับ

------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส