ต้องยอมรับว่าหุ้น IPO หลายๆตัวที่เข้ามาซื้อขายในตลาดได้ไม่นาน
ราคาหุ้นวิ่งไปไกล หลายร้อยเปอร์เซนต์ในช่วงที่ผ่านมา
และหุ้นหลายๆตัว ราคาหุ้นก็เริ่มลดลงมาเรื่อยๆตามปริมาณการซื้อขายหุ้นไทยที่ซบเซา โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่หลายๆตัว
โดยเฉพาะหุ้น SCGP บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน)
ที่เข้ามาซื้อขายช่วงเดือนตุลาคม ปี 2563 ในราคาพาร์ 1 บาท และราคา IPO ที่ราคา 35 บาท
ก่อนจะพุ่งสูงสุดไปที่ 72 บาท ก่อนจะปรับตัวลงมาเรื่อยๆแตะระดับที่ราคา IPO อีกครั้ง
พูดง่ายๆ คือ การเข้าซื้อ SCGP วันนี้ นักลงทุนจะได้เปรียบคนซื้อ IPO มาก
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ?
อธิบายสั้นๆแบบนี้ครับ ...
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส มองว่า ราคาหุ้น SCGP ลดลงจนเท่าราคา IPO เมื่อ 3 ปีก่อนที่ 35 บาท จากความกังวลหลายอย่างเช่น
... ปัญหารายได้และกำไรที่เติบโตช้ากว่าคาด
... ปัญหาเศรษฐกิจเวียดนาม และจีน
... ช่วงวิกฤต Covid-19
... ความขัดแย้งรัสเซีย ยูเครน ทำให้ราคาพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
... การขึ้นดอกเบี้ย สกัดเงินเฟ้อ ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้น
แต่ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ศักยภาพของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 3 ปีที่่ผ่านมา จากการทำดีลเข้าซื้อกิจการหลายแห่ง และการเติบโตแบบ Organic คือความสามารถจากบริษัทเอง
บทวิเคราะห์ เชื่อว่า SCGP จะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งปัจจัยความกังวลผ่อนคลาย และราคาหุ้นที่ลดลงน่าจะทำให้ Outperform ตลาดหุ้นไทยได้เมื่อปริมาณซื้อขายกลับมา
- สรุปประเด็น SCGP ผลประกอบการของบริษัทกำลังจะ Turnaround
- นักลงทุนกำลังจะเห็น SCGP ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
- ผลประกอบการ SCC Preview สะดุดระยะสั้น แต่ดีในระยะยาว
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส มองว่า หลัง SCGP เข้าระดมทุนได้เข้า M&P ทั้งหมด 8 ดีล
ขยายธุรกิจเพิ่มเติมอีก 9 โครงการ
ส่งผลให้ปัจจุบัน SCGP มีมูลค่าสินทรัพย์แตะเกืบ 2 แสนล้านบาท
จากปี 2562 ก่อน IPO ที่มีมูลค่า 1.4 แสนล้านบาท
พูดง่ายๆ คือ ความใหญ่และศักยภาพเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ...
แต่ปัญหา คือ รายได้และกำไรไม่ได้เติบโตตามที่นักลงทุนคาดหวัง ...
ปี 2562 บริษัทมีรายได้ 8.97 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 5.26 พันล้านบาท
ปี 2563 บริษัทมีรายได้ 9.33 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 6.45 พันล้านบาท
ปี 2564 บริษัทมีรายได้ 12.64 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 8.29 พันล้านบาท
ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 14.73 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 5.80 พันล้านบาท
โดยมีอัตรากำไรสุทธิราวๆ 7%
ทั้่งนี้ บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า กำไรไตรมาส 2 ของ SCGP มีแนวโน้มฟื้นตัว จาก 3 ประเด็นสำคัญด้วยกัน คือ
1. เศรษฐกิจอาเซียนเติบโตและฟื้นตัวดียิ่งขึ้นจากการบริโภค
2. ธุรกิจ Packaging Paper ของจีนมีแนวโน้มดีขึ้น
3. ธุรกิจ Fibrous Chain โดดเด่นจากบรรจุภัณฑ์อาหาร
ดังนั้น บทวิเคราะห์มองว่า SCGP จะกลับมาอยู่บนเส้นทางแห่งการเติบโตได้อีกครั้ง หลังหลายปัจจัยลบเริ่มผ่อนคลาย
ถือเป็นหุ้นที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม
เพราะคนที่ซื้อวันนี้ได้เปรียบคนซื้อ IPO มาก
ศักยภาพเพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาหุ้นถูกลง ....
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส