ช่วงนี้นักลงทุนหลายๆคนกำลังมองหาหุ้นปลอดภัย ขนาดใหญ่ มีเงินปันผลและไม่ได้ผันผวนมากในแง่ของราคาหุ้น
เชื่อว่าหุ้น SCC หรือ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน)  น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆที่นักลงทุนกำลังมองหา

ทั้งนี้ เราต้องเข้าใจก่อนว่า SCC เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่พื้นฐานดี ... ตรงนี้ไม่มีใครปฏิเสธได้
แต่การจะซื้อโดยไม่เข้าใจ "ผลประกอบการ" ระยะสั้นของ SCC ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไรนัก
สาเหตุเป็นเพราะว่า ผลประกอบการระยะสั้นของ SCC อาจจะยังสะดุด และไม่โดดเด่นเท่าไรนัก

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า ผลประกอบการ 2Q66 น่าจะยังไม่สดใส และกำไรสุทธิอาจจะหดตัวค่อนข้างมาก 
ดังนั้น นักลงทุนต้องมองหาจังหวะให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุน

ฝ่ายวิจัย มองว่า ธุรกิจของ SCC แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ

1. ธุรกิจปิโตรเคมี
น่าจะออกมาแย่ เพราะมี Stock loss สูงมาก

2. ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง
น่าจะออกมาทรงตัว เพราะ 
Demand ขยายตัวเล็กน้อยจากต่างประเทศ แต่ในภาพรวมถือว่าออกมาไม่ได้ดีมากโดยเฉพาะในเวียดนาม กัมพูชา และอินโดนีเซีย
สำหรับในประเทศออกมาแย่ โดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบางใหม่ ทำให้ไม่มีโครงการใหญ่ๆจากภาครัฐเข้ามา ส่วนเอกชนความต้องการเพิ่มขึ้นไม่มาก

3. ธุรกิจ Packaging
เป็นภาพของการฟื้นตัว จากความต้องการใช้เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในไทยและเวียดนามที่การท่องเที่ยวฟื้นตัว 
รวมถึงความต้องการบรรจุภัณฑ์อาหารจากจีนเพิ่มสูงขึ้นมาก

ทั้งนี้ เมื่อดูจากภาพรวมทั้งหมด ต้องยอมรับว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมา "ไม่เด่น" 
และอาจจะรายงานกำไรสุทธิอยู่ที่ 4.77 พันล้านบาทด ลดลงมากถึง -52% YoY

• นักลงทุนกำลังจะเห็น SCC ปรับโครงสร้างธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง
• กรณีศึกษา SABINA สินค้าชุดชั้นในกำลังได้รับประโยชน์จากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
• ประเด็น NUSA เกิดอะไรขึ้นกับหุ้น NUSA ราคาร่วงติดฟลอร์
   

คำถามคือ นักลงทุนจะคาดหวังการฟื้นตัวของ SCC ได้เมื่อไร ? 
คำตอบ คือ ครึ่งปีหลัง เราจะเห็นภาพของการฟื้นตัว 
และจะฟื้นตัวอย่างมากในปี 2567 นำโดยธุรกิจในเวียดนาม

SCC กำลังก้าวเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญของธุรกิจอีกครั้งในปี 2567 จากการเปิดดำเนินงานเชิงพาณิชย์ปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์แห่งใหม่ที่เวียดนาม ในชื่อ Long Son Petrochemical Complex หรือ LSP ในเดือนกันยายน ปี 2566 (รับรู้รายได้เต็มปี 2567)
ซึ่งโครงการ LSP จะเพิ่มมูลค่าระยะยาวให้กับ SCC ในระยะยาว ...

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส ยังคงเชื่อมั่นพื้นฐานระยะยาวของ SCC และแผนการเติบโตอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืนในธุรกิจด้วยการเน้นสินค้ามูลค่าสูง (High Value Added) 
แต่ราคาหุ้นระยะสั้นอาจจะผันผวนเพราะผลประกอบการไตรมาส 2 ที่จะถึงนี้

ถ้านักลงทุนมองข้ามระยะสั้นไปได้ SCC ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมากครับ

------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส

สรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย