เวลาเราพูดถึงเรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
เชื่อว่าส่วนใหญ่จะมองไปในทางลบ เพราะถึงแม้จะทำให้การบริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น คนมีเงินในกระเป๋ามากขึ้น แต่ต้นทุนสินค้าและการบริการก็จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
แต่คงไม่ใช่สำหรับ SABINA หรือ บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) ที่ทำธุรกิจผลิต และจำหน่ายสินค้าชุดชั้นในสตรี ที่มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นและน่าจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า วิเคราะห์ว่า พนักงานของ SABINA มีอยู่ราวๆ 3.5 พันคน ดังนั้นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำน่าจะมีผลกระทบระดับหนึ่ง
แต่เมื่อมองมุมกลับ จะพบว่าเป็นบวกมากกว่าลบ เพราะเป็นการขึ้นทั้งอุตสาหกรรมทำให้การปรับราคาขายชุดชั้นในเพิ่มขึ้น หรืออาจจะมีการลดโปรโมชั่นจะเกิดขึ้นทั้งของ SABINA และของแบรนด์อื่นๆได้
ในอีกแง่หนึ่ง ยังเป็นการหนุนกำลังซื้อให้กับผู้บริโภคหลักของกลุ่ม SABINA ทำให้การขึ้นราคายังทำให้ความต้องการซื้อชุดชั้นในเติบโตขึ้นได้
นอกจากนี้ รัฐบาลใหม่จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ "ชุดใหญ่" หลักจัดตั้งรัฐบาลเสร็จ ซึ่งจะเป็นบวกต่อ SABINA โดยตรง
- สรุปการเติบโตของ BDMS ทำอย่างไรผลประกอบการถึงดีขึ้นท่ามกลางเศรษฐกิจไทยที่ผันผวน
- เกิดอะไรขึ้นกับ SJWD ราคาหุ้น -16% YTD โอกาสหรือความเสี่ยง ?
- สรุปประเด็น SCGP ผลประกอบการของบริษัทกำลังจะ Turnaround
ฝ่ายวิจัย มองว่า รายได้ของ SABINA ไตรมาส 2 น่าจะอยู่ราวๆ 843 ล้านบาท อยู่ในระดับที่ทรงตัว จากการบริโภคที่เพิ่มขึ้นและสินค้าใหม่ Braless ที่สร้างรายได้เต็มปี
แต่จะโดนกดดันจากธุรกิจ OEM แบรนด์ต่างประเทศที่มีการเลื่อนส่งมอบจากปัญหา Recession ในยุโรป
ผลประกอบการที่ผ่านมาของ SABINA
ปี 2562 บริษัทมีรายได้ 3.29 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 413.25 ล้านบาท
ปี 2563 บริษัทมีรายได้ 2.91 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 276.83 ล้านบาท
ปี 2564 บริษัทมีรายได้ 2.65 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 294.19 ล้านบาท
ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 3.18 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 417.22 ล้านบาท
ไตรมาส 1 ปี 2566 บริษัทมีรายได้ 874 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 117.27 ล้านบาท
โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 49% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ราวๆ 14%
สุดท้ายบทวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการของ SABINA อีกทั้งราคาหุ้นที่ลดลงมาประมาณ -17% ภายใน 1 เดือน ได้สะท้อนความกังวลเรื่องของค่าเงินบาท และค่าแรงขั้นต่ำ ที่มากเกินไป
ถึงแม้จะมีความเสี่ยงในเรื่องของอัตรากำไรขั้นต้นอาจจะลดลงบ้าง แต่ก็สะท้อนลงไปในราคาแล้ว
ถือเป็นหุ้นอีกตัวที่นักลงทุนน่าติดตามไว้ และยังได้รับประโยชน์จากค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น SABINA อาจจะมีการจ่ายปันผล 0.59 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Yield ที่ 2.3%
------------------------------------------------------------------------------
Reference
สรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย