#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน
#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

เมื่อไร TRUE จะกำไร ? บริษัทที่นักลงทุนคาดหวังการกลับมากำไรมากที่สุด

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
652 views

ถ้าเราพูดถึงหุ้น TRUE 
เชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่จะนึกถึงเรื่องดีลการควบรวมกิจการกับ DTAC 
และมองว่า TRUE น่าจะกลับมาทำกำไรได้ไม่ยาก

 

แต่รอแล้ว รอเท่าไร ...
บริษัทก็ยังขาดทุน และยังเป็นขาดทุนที่หนักกว่าเดิม จากประเด็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่ยังอยู่ในระดับสูง
เช่น ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ถ้าไม่นับกำไรพิเศษ TRUE จะขาดทุนมากถึง 1.8 พันล้านบาท 
หรือถอยกลับไป 4Q65 TRUE ขาดทุนหนักถึง 4.8 พันล้านบาท
พูดง่ายๆ คือ ผลประกอบการออกมาแย่กว่าที่คาดไว้เยอะมาก
และเป็นการบ่งชี้ด้วยว่า ผลของการ Synergy ยังไม่ชัดเจนเท่าไรนัก ...

 

คำถาม คือ TRUE จะกลับมากำไรเมื่อไร ? 
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เมย์แบงก์ ประมาณการกำไรว่า TRUE น่าจะกลับมามีกำไรอีกครั้ง ในปี 2568 ที่ 518 ล้านบาท
พูดง่ายๆ คือ จากนี้ไปอีก 2 ปี นักลงทุนถึงจะเริ่มเห็นตัวเลขกลับมากำไร
และเริ่มจะพูดถึงเรื่องของการจ่ายปันผล

ทั้งนี้ สิ่งที่บอกมาทั้งหมด เป็นเรื่องของระยะยาว ...
สิ่งที่นักลงทุนอยากเห็นมากที่สุด คือ เราจะเริ่มเห็นการ Synergy ระหว่าง TRUEE + DTAC ตั้งแต่เมื่อไร
คำตอบ คือ ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2566 เป็นต้นไป นักลงทุนจะเริ่มเห็นการ Synergy ที่เด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ

 

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เมย์แบงก์ วิเคราะห์ว่า หุ้น TRUE กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง จาก 2 ประเด็นด้วยกัน คือ 
1. ผลประกอบการรายไตรมาส จะกลับมาเริ่มดีขึ้น 
บทวิเคราะห์มองว่า ไตรมาส 2 ที่จะถึงนี้ TRUE จะยัง "ขาดทุน"
แต่เป็นการขาดทุนที่ลดน้อยลง เหลือ 1.3 พันล้านบาท (จาก 1Q66 ที่ -1.5 พันล้านบาท)
โดยรายได้ทรงตัว ในขณะที่รายจ่ายโดยเฉพาะค่าการตลาดที่ยังอยู่ในระดับสูง

2. ราคาหุ้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจ
ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ 6.15 บาท ถือว่าต่ำกว่าราคาก่อนควบรวมกิจการ
และ TRUE ซื้อขายที่ EV/EBITDA ปี 2566 ที่ 7.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ของ TRUEE ก่อนหน้าที่จะมีการควบรวม

ดังนั้น บทวิเคราะห์ มองว่า ราคาหุ้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจ 
และ Downside ของราคาหุ้น ที่จำกัดแล้ว (พูดง่ายๆ คือ รับรู้ข่าวร้ายไปมากพอตัวแล้ว ...)

 

 

สอดคล้องกับความเห็นของบทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า ที่มองว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ที่จะถึงนี้ TRUE น่าจะยังออกมา "ขาดทุน"
แต่เป็นการขาดทุนที่ลดลง เหลือ 422 ล้านบาท ...
พูดง่ายๆ คือ ผลประกอบการโดยภาพรวม ดูดีขึ้น

 

ไม่เพียงแค่นั้น ผลของการ Synergy จะเริ่มเด่นชัดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566
และเด่นยิ่งขึ้นในปี 2567 และปี 2568 
ไม่ว่าจะเป็นการลดจำนวนพลังงาน การบำรุงโครงข่าย การเพิ่มอัตราการทำกำไร การลดค่าใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อน

บทวิเคราะห์ยังมองอีกด้วยว่า ราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกว่าผู้เล่นอื่นในตลาด รับความเสี่ยงเรื่องกฏเกณฑ์ไปมากแล้ว
จากนี้จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวตาม Syngergy ที่เร่งตัวขึ้น

หุ้น TRUE ถือเป็นหุ้นธีม Turnaround ที่นักลงทุนต้องจับตาเป็นอย่างยิ่งครับ ...

------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เมย์แบงก์


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง