เมื่อคืนที่ผ่านมา GPSC มีประกาศว่าได้ใช้เงินไปกว่า 8.6 พันล้านบาท เข้าซื้อหุ้น 42.93% ใน Avaada Energy Private Limited หรือ AEPL รุกธุรกิจแบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน โดยจะแบ่งการชำระเงินออกเป็น 2 งวด คือ
งวดแรก ชำระเงิน 3.9 พันล้านบาท ภายในเดือนกรกฏาคม 2566 
งวดที่สอง ชำระเงิน 4.7 พันล้านบาท เริ่มชำระในเดือนกันยายน 2566

โดยบริษัทให้เหตุผลว่า เป็นการสนับสนุนการขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศอินเดีย โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงาน พร้อมผสมผสานระบบกักเก็บพลังงาน
AEPL มีเป้ากำลังการผลิตอยู่ที่ 1.1 หมื่นเมกะวัตต์ ภายในปี 2569

AEPL ถือเป็นผู้ประกอบธุรกิจพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ของอินเดีย ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 4.9 พันเมกะวัตต์ อยู่ระหว่างเพิ่มกำลังการผลิตอีก 0.4 เมกะวัตต์
(GPSC ถือหุ้น 42.9% เท่ากับมีส่วนแบ่ง 2.1 พันเมกะวัตต์ ...)
นอกจากนี้ AEPL ยังมีใบอนุญาตจากภาครัฐอีก 6 โครงการ อยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 1.8 พันเมกะวัตต์ 
เท่ากับว่า AEPL มีกำลังการผลิตรวมทั้งหมดในอนาคต 6.7 พันเมกะวัตต์
ที่น่าสนใจ คือ บริษัทมีสัญญาการซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับภาครัฐ และลูกค้าที่เป็นเอกชน

• SET Index ที่ 1,480 จุด โอกาสของนักลงทุนระยะยาว ? 
• สรุปการเติบโตของ FORTH EMS จุดเริ่มต้นของตู้เต่าบิน ที่กำลังจะ IPO เร็วๆนี้
• ลงทุนในสภาวะ Multipolar World เมื่อโลกของเราแบ่งออกเป็นหลายขั้วเศรษฐกิจ

คำถาม คือ ดีลที่เกิดขึ้นของ GPSC น่าสนใจแค่ไหนในแง่ Valuation ที่เพิ่มขึ้น
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส มีมุมมองเชิงบวก "ระยะยาว" ต่อหุ้น GPSC
สาเหตุเป็นเพราะว่า เป้าหมายของ GPSC คือการพยายามเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้เป็น 50% ของพอร์โฟลิโอทั้งหมด (ปัจจุบันมีอยู่ 35%)
เท่ากับว่า GPSC จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ในมือราวๆ 8.1 พันเมกะวัตต์ 
และยังมีส่วนเพิ่มจากโครงการ AEPL ในอนาคตที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 769.7 เมกะวัตต์ ถือเป็น Upside ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

โดยสรุป ฝ่ายวิจัยมองว่าดีลนี้ เป็นดีลเชิงบวกในระยะยาว ....

คำถามสุดท้าย คือ ดีลนี้จะมีการเพิ่มทุนไหม ? 
บทวิเคราะห์ มองว่า GPSC มีเงินสดอยู่ในมือ 2.1 หมื่นล้านบาท และสัดส่วน D/E ที่ 1.5 เท่า จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องหาแหล่งเงินทุน หรือมีการเพิ่มทุนแต่อย่างใด

ถือว่าเป็นหุ้นที่นักลงทุนไม่ควรมองข้ามครับ

------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์