#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

เกิดอะไรขึ้นกับ PRTR ราคาหุ้น -30% การเติบโตอยู่ที่ตรงไหน ?

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
1,003 views

หุ้น IPO สุดร้อนแรงปีนี้ น่าจะต้องยกให้กับ PRTR หรือ บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 
ทำธุรกิจ HR Outsourcing แบบครบวงจร และให้บริการสรรหาบุคลากร
เพราะต้ังแต่ช่วงแรกที่เข้ามา กลุ่มบริษัท JMART แสดงความสนใจโดยการเข้าถือหุ้น 15% 
และยังมีนักลงทุนชื่อดังอีกจำนวนมากที่เข้าไปถือหุ้น จนติดรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่
โดยราคา IPO อยู่ที่ 7.20 บาท เปิดตลาดวันแรกพุ่งแรงถึง 11 บาทต่อหุ้น
แล้วราคาก็ค่อยๆปรับตัวลงมาจนอยู่ระดับราคา 7.15 บาท หรือร่วงจากระดับราคาสูงสุดราวๆ 30%
เท่ากับราคาขาย IPO 


คำถามคือ ด้วยราคาเท่ากับ IPO ณ ตอนนี้ เราควรมองเป็นโอกาสหรือความเสี่ยง
และถ้าเรามองเป็นโอกาส "สตอรี่" ของการเติบโต อยู่ที่ตรงไหน ?

 


บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า วิเคราะห์ออกมา 2 ภาพคือภาพระยะสั้น และภาพระยะยาว
... สำหรับภาพระยะสั้น ผลประกอบการ 2Q66 มองว่าจะเติบโต QoQ และ YoY จากปัจจัยหนุน 3 ข้อด้วยกัน คือ
1. รายได้เติบโตจากธุรกิจ Outsorce จากกลุ่มลูกค้าธุรกิจค้าปลีก เครื่องใช้ไฟฟ้าและโทรศัพท์มือถือ รวมถึงการ Recruitment ความต้องการบุคลากรหลังโรคระบาดคลี่คลาย
2. ธุรกิจของบริษัท PINNO ซอฟท์แวร์ด้านบริหารจัดการบุคลากรเริ่มมีผลการดำเนินงานตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป 
3. ประสิทธิภาพการทำกำไรดีขึ้น หลังเข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อการระดมทุน IPO ต้นทุนถุกลง ทำให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลงราวๆ 5 ล้านบาทต่อไตรมาส

 

ภาพระยะยาว กำไรในอีก 3 ข้างหน้าโตโดดเด่น CAGR +14.9% ทั้งธุรกิจเดิม จากการขยายธุรกิจใหม่ และดีล M&A
1. ในส่วนของธุรกิจเดิม ผลประกอบการฟื้นตัวจากการจ้างงานเพิ่มขึ้น ขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆมากขึ้น
2. ธุรกิจใหม่ คือ 
... Blacksmith ประกอบธุรกิจ Integrated Learning Services หรือฝึกอบรมออนไลน์
... Nexmove ให้บริการแพลตฟอร์มหางานออนไลน์ ซึ่งจะมีรายภายในปี 2566
... PINNO ธุรกิจซอฟท์แวร์ด้านบริหารจัดการบุคลากร 
บทวิเคราะห์คาดว่า Blacksmith จะสร้างรายได้ 40 ล้านบาท
Nexmove จะสร้างรายได้ราวๆ 30 ล้านบาท และ PINNO สร้างรายได้ราวๆ 25 ล้านบาท
3. ดีล M&A การเข้าซื้อธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้อง วางงบไว้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

 

บทวิเคราะห์มองว่า ธุรกิจของ PRTR มีความน่าสนใจจากรายได้ที่เป็น Recurring และผลประกอบการก็ยังเติบโตท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ
ยิ่งไปกว่านั้น ประเด็นเรื่องค่าแรงขั้นต่ำบริษัทมีความเสี่ยงต่อประเด็นนี้น้อยมากเพราะมีการใช้กลยุทธ์แบบ Cost Plus กล่าวคือ บวกอัตรากำไรจากอัตราค่าจ้าง

PRTR ถือเป็นอีกบริษัทที่นักลงทุนต้องจับตาอย่างใกล้ชิดครับ ...

------------------------------------------------------------------------------
Reference
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ 

ไทยรัฐออนไลน์

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง