ถือเป็นอีกก้าวของ SCC ที่น่าสนใจอย่างมากหลังจากประกาศนำ SCG Décor เข้าระดมทุนในตลาดหุ้นไทย พร้อมทั้งการเสนอซื้อหุ้นสามัญ COTTO ที่ราคา 2.4 บาท โดยจะชำระเป็นค่าหุ้นเพิ่มทุน พร้อมกับประกาศถอน COTTO ออกจากตลาด
จริงๆ SCG Décor ไม่ใช่บริษัทใหม่ เพราะเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจมานานแล้วในชื่อ บริษัท เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ซึ่งทาง SCC ถือหุ้น 100% ดำเนินธุรกิจผลิตกระเบื้องและสุขภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ คือ เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลลิปปินส์
อีกทั้ง ทาง SCG Décor เป็นผู้ถือหุ้น COTTO อยู่แล้วราวๆ 82.7%
ซึ่งทาง COTTO ทำธุรกิจแต่ในประเทศไทยเท่านั้น ....
ถามว่าดีลครั้งนี้เป็นแผนปรับโครงสร้าง SCG Décor มีสิ่งใดบ้างที่เราต้องรู้
1. ผู้ถือหุ้น COTTO จะกลายเป็นผู้ถือหุ้น SCG Décor ที่มีขนาดธุรกิจใหญ่และแข็งแกร่งกว่าเดิม
2. ผู้ถือหุ้น COTTO เข้าถึงการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลลิปปินส์ที่ครอบคลุมประชากรกว่า 560 ล้านคน (จากเดิมแค่ขายคนไทย 72 ล้านคน)
3. กำลังการผลิตกระเบื้องเพิ่มขึ้น รุกสู่ธุรกิจขายสินค้าสุขภัณฑ์ และมีช่องทางการกระจายสินค้า จำหน่ายสินค้าที่เพิ่มขึ้น
4. ทำให้ COTTO มีรายได้ และกำไรที่เพิ่มขึ้น 2-4 เท่า
- นักลงทุนกำลังจะเห็น SCC ปรับโครงสร้างธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง
- รู้จัก MGC ธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ Lifestyle Mobility Ecosystem ที่กำลังจะ IPO เร็ว ๆ นี้
- ส่องหุ้น AURA เข้าตลาดมาแล้ว 5 เดือน ความน่าสนใจอยู่ตรงไหน ?
ประเด็นสำคัญ คือ สำหรับผู้ถือหุ้นทั้ง SCC และ COTTO จะได้ประโยชน์อะไรจากดีลนี้ในระยะยาวบ้าง
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า ได้วิเคราะห์แยกออกมาเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ
สำหรับ SCC
บทวิเคราะห์มีมุมมองเป็นกลาง เพราะมองเป็นแค่การปรับโครงสร้าง
และสัดส่วนกำไรของ SCG Décor เป็นเพียงแค่ 3% ของกำไรทั้งกลุ่ม SCC ทั้งหมด ซึ่งถือว่าเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้าง และการออก IPO ของ SCG Décor ครั้งนี้จะทำให้ธุรกิจกระเบื้อง วัสดุก่อสร้าง และสุขภัณฑ์ที่ไม่ได้เติบโตมาสักพัก มีการเติบโตที่ดีในอนาคต
สำหรับ COTTO
ผู้ถือหุ้น COTTO จะกลายเป็นผู้ถือหุ้น SCG Décor ที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าเดิม ได้แก่
1. การเข้าถึงผลิตภัณฑ์ และ Portfolio ของ SCG Décor
2. การนำสินค้าไปรุกต่างประเทศที่มีการเติบโตสูงกว่าไทย
3. ตัวเลขทางการเงินดีขึ้น
4. มีการ Synergy ที่ดีขึ้น การลงทุนใหม่ๆหลังการระดมทุน IPO
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องติดตาม คือ แผนการรวมนี้ยังต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน
ราคาหุ้น COTTO น่าจะถูกจำกัดที่ 2.4 บาทจนกว่าดีลนี้จะเสร็จสิ้น
ซึ่งบทวิเคราะห์คาดว่า SCG Décor น่าจะเข้าตลาดได้ปลายปี 2566 จนถึงต้นปี 2567
ดังนั้น การจะเข้าเก็งกำไรส่วนต่างราคาหุ้น COTTO น่าจะไม่เกิน 2.4 บาท ได้
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า