หุ้นที่นักลงทุนคาดหวังการเติบโตค่อนข้างมาก เชื่อว่า CBG น่าจะเป็นหนึ่งในนั้น
เพราะนักลงทุนเชื่อว่าการเติบโตของ CBG น่าจะเติบโตเป็นเลขสองหลักไปอีก 3-4 ปีข้างหน้า โดยหลักการเติบโตน่าจะมาจาก
... จากการรุกต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV
... การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ช่วยหนุนอัตรากำไรขั้น (GPM)
... การผลักดัน CJ Supermarket เข้าระดมทุนในตลาด กลายเป็น Growth story เรื่องใหม่
... หรือแม้กระทั่งการพยายามรุกค้าปลีก แบรนด์น้องใหม่อย่าง "ร้านถูกดี"
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่นักลงทุนคาดหวังกันเป็นอย่างมาก ว่า CBG มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีต่อไป
แต่ในสถานการณ์ล่าสุด เราอาจจะต้องเปลี่ยนความคิด
สาเหตุเป็นเพราะว่า การเติบโตของ CBG อาจจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดหวังกันเอาไว้
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์พาย วิเคราะห์ 3 ประเด็นที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของ CBG เอาไว้ว่า ...
1. ยอดขายใน CLMV อาจจะต่ำกว่าที่คาดไว้
เมื่อไม่นานมานี้กระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าส่งออกเครื่องดื่มไม่ผสมแอลกอฮอล์ของไทยไป CLMV ลดลงประมาณ 22%
ซึ่งตัวเลขดังกล่าวชี้เป็นนัยว่า ยอดขาย CBG ใน CLMV อาจจะทรงตัวหรือแย่กว่าคาดในไตรมาส 1 ที่จะถึงนี้
2. ส่วนแบ่งการตลาดที่ลดลง การแข่งขันสูง
CBG เป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง เพียงรายเดียวที่ยังขายปลีกขวดละ 10 บาท
ในขณะที่คู่แข่งปรับขึ้นเป็น 12 บาทกันแล้ว ทำให้บทวิเคราะห์มองว่ากลยุทธ์ด้านราคาไม่คุ้มค่าอีกต่อไป และ CBG อาจจะเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับคู่แข่งไป
- หุ้น BA จะฟื้นตัวเมื่อไร ในแง่ของผลประกอบการ ?
- KEX กำลังจะมีผลประกอบการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
- บิ๊กซี กำลังจะเข้าตลาดหุ้นไทยในชื่อ BRC
3. อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) มีแนวโน้มลดลง
บทวิเคราะห์มองว่า GPM ในภาพรวมของ CBG จะเหลือเพียง 27.1% จากเดิมที่คาดไว้ว่าน่าจะอยู่ราวๆ 29.6% จากค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่สูง
โดยภาพรวมแล้ว บทวิเคราะห์ปรับลดกำไรของ CBG ลงราวๆ 14-16% ในปีนี้ จาก 2 ปัจจัยที่เห็นได้ชัดคือ
- ยอดขายใน CLMV ลดลงเหลือ 6 พันล้านบาท จากที่เชื่อว่าน่าจะทำได้ 6.5 พันล้านบาท
- อัตรากำไขั้นต้นลดลง
ถือเป็นปีแห่งความท้าทายของ CBG ที่นักลงทุนต้องติดตามกันต่อไปครับ
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์พาย