เวลาเราพูดถึงกลุ่มธนาคารภาครัฐ เชื่อว่านักลงทุนทุกคนต้องนึกถึง "KTB"
โดยความเชื่อเดิมๆ มักจะมองว่า KTB เป็นแบงก์ภาครัฐที่มีขนาดใหญ่ การจะปรับเปลี่ยนตัวเองน่าจะเป็นเรื่องยาก
แต่ในความเป็นจริง ไม่ใช่แบบนั้น ..
เพราะนักลงทุน กำลังจะได้เห็น KTB ปรับตัวไปสู่การเป็น Digital Banking อย่างเต็มรูปแบบ
... รู้หรือไม่ว่าในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา หุ้น KTB สร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า SET Index อย่างมาก
โดยใน 1 ปี หุ้น KTB ให้ผลตอบแทนสูงถึง 26%
ในขณะที่ SET Index -6.2% 
หรือถ้าเทียบกับหุ้นกลุ่มแบงก์อื่นๆ เช่น BBL +11%
KBANK -17.09% และ SCB -11% ก็ยังถือว่า KTB เป็นหุ้นแบงก์ที่ให้ผลตอบแทนโดดเด่นกว่ากลุ่มอย่างมาก

ประเด็นที่น่าสนใจ คือ ทำไมราคาหุ้น KTB ถึงวิ่งขึ้นได้อย่างโดดเด่นเหนือ SET Index และเหนือกว่าหุ้นแบงก์อื่นๆ
คำตอบ คือ KTB กำลังมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงพื้นฐานอย่างมาก 
อยากจะเล่าให้ฟัง 3 ประเด็นที่น่าสนใจ แบบนี้ครับ

1. KTB กำลังมุ่งสู่ความเป็น Digital Banking อย่างชัดเจน
เริ่มต้นมาจากช่วง COVID-19 ทำให้แบงก์ต้องมีการปรับตัว นำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้
ถึงแม้ว่าการปล่อยสินเชื่อผ่านดิจิทัล มองว่าเป็นสินเชื่อที่มีความเสี่ยงสูง (แต่ผลตอบแทนก็สูง...) 
แต่พอร์ตสินเชื่อของ KTB ทำผลงานได้น่าประทับใจ กล่าวคือสินเชื่อดิจิทัล ปล่อยได้ 5 พันล้านบาท หลังจากการเปิดให้บริการไม่กี่เดือนและสามารถจัดการคุณภาพสินทรัพย์ดี มีสัดส่วน NPL เพียงแค่ 2% เท่านั้น
อีกทั้ง KTB กำลังร่วมมือกับ AIS ขอใบอนุญาต Virtual Banking 
... ซึ่งอาจจะเป็นประเด็นการเติบโตรอบใหม่ของ KTB ที่น่าจับตาอย่างมากในอนาคต

• ประเทศไทยกำลังมี Virtual Bank ที่พัฒนาโดย KTB
• BJC กำลังอยู่ในช่วงของการเติบโต
• SNNP ขนมขบเคี้ยว 2 หมื่นล้าน
   

2. สินเชื่อเติบโตแข็งแกร่ง โครงสร้างพอร์ตมีประสิทธิภาพ
ผู้บริหาร KTB ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง โดยตั้งเป้าว่าพอร์ตน่าจะเติบโตได้ราวๆ 3-5% โดยเฉพาะในกลุ่ม yield สูงในกลุ่มรายย่อย 
และตั้งใจจะลดการปล่อยสินเชื่อ yield ต่ำของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจน่าจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าสัดส่วนเหลือเพียง 10% - 15% ภายในปีนี้ จากเดิมที่เคยแตะ 17% ในปี 2565 และสูงถึง 25% ในปี 2564 
.... ดังนั้น NIM ของแบงก์น่าจะปรับตัวดีขึ้นจาก 2.6% มาอยู่ที่มากกว่า 2.8% ภายในปีนี้ 
พูดง่ายๆคือ KTB กำลังมีโครงสร้างพอร์ตสินเชื่อที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นั่นเอง

3. KTB มีแพลตฟอร์มดิจิทัล "“Krungthai Nex" และ "เป๋าตัง" 
รู้หรือไม่ว่าในช่วง COVID-19 KTB ถือเป็นกลุ่มหุ้นที่รับประโยชน์จากภาครัฐอย่างมาก โดยเฉพาะแอพ "เป๋าตัง" ที่เปิดให้ประชาชนคนไทยรับสิทธิพิเศษจากภาครัฐผ่านแอพ 
ทำให้ "เป๋าตัง" เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีผู้ใช้มากที่สุดในประเทศไทยราว 40 ล้านคน ..
ข้อมูลจำนวนมหาศาล KTB สามารถเข้าถึงฐานลูกค้ารายย่อยคนไทยได้มากกว่า 40 ล้านบัญชี เพิ่มประสิทธิภาพของพอร์ตในการปล่อยสินเชื่อได้อีกมาก

อ่านมาถึงตรงนี้ เราอาจจะสงสัยว่า NPL ของ KTB น่าจะสูงมาก
คำตอบ คือ ไม่เลย
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี วิเคราะห์ว่า NPL จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ราวๆ 3.3% 
โดยมอง Credit cost จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากสัดส่วน loss coverage สูงถึง 180% ซึ่งสูงกว่าเป้าของธนาคารที่ประมาณ 170%

ผู้บริหาร KTB ยังเปิดเผยอีกว่า KTB กำลังมองหาทางเลือกต่างๆในการจัดการกับ NPLs ซึ่งอาจจะมีการจัดตั้ง JV AMC ด้วย ในอนาคต
ถือเป็นอีกประเด็นบวก ที่อาจจะส่งให้ KTB เติบโตได้อีกมาก ...

โดยสรุปแล้วสาเหตุที่ราคาหุ้น KTB ดีดตัวได้อย่างโดดเด่น
คำตอบสั้นๆ น่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของ KTB ในเชิงบวกที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ...

------------------------------------------------------------------------------
Reference
ไทยรัฐออนไลน์

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี