ต้องยอมรับว่าประเด็นเรื่องภาษีขายหุ้น เป็นสิ่งที่สร้างความกังวลใจต่อตลาดหุ้นไทยมาโดยตลอด โดยข้อมูลที่ผ่านมาพบว่า
ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2565 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยอยุ่ที่ 8.9 หมื่นล้านบาท
แต่พอมาในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2566 มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือเพียง 6.5 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นการลดลงมากถึง 27%
... เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ FundFlow ต่างชาติไหลออกอีกด้วย โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยไปแล้วกว่า 4.3 หมื่นล้านบาท และค่าเงินบาทอ่อนค่าแรงถึง 6% มาอยู่ในช่วง 34.50 บาท - 35 บาท ต่อดอลล่าร์สหรัฐ
แต่เมื่อไม่นานมานี้ มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลสั่งคลังเลื่อนเก็บภาษีขายหุ้นในอัตรา 0.11% ของมูลค่าการขายหุ้นออกไปก่อน เนื่องจากสภาธุรกิจตลาดทุนคัดค้านหนัก ทำให้รัฐบาลต้องชะลอกระบวนการทางกฏหมายและส่งเรื่องกลับมายังกระทรวงการคลังปลายเดือน กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา
ขณะที่รัฐบาลเตรียมประกาศการยุบสภาในเร็วๆนี้ ซึ่งจะทำให้ค่างกฏหมายฉบับดังกล่าวต้องกลับไปนับหนึ่งใหม่อีกคร้ัง
ถามว่าประเด็นข่าวที่เกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยในแง่ไหน ?
คำตอบ คือ ในแง่ Sentiment เชิงบวก 2 ประการด้วยกันคือ
1. การเลื่อนภาษีขายหุ้นอาจจะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง
2. หนุนให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาเข้าซื้อหุ้นไทย หลังจากขายหนักไปกว่า 4.3 หมื่นล้านบาท
- ทำไม DUSIT เป็นหุ้นโรงแรมที่ยังขาดทุน 500 ล้าน ?
- CRC กับกลยุทธ์ Retailligence กำลังทำให้บริษัทเติบโตสูงถึง 37%
- หนึ่งในวิธีหาหุ้น แบบง่ายๆและเร็วๆ
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กสิกร มองว่า ประเด็นดังกล่าวเป็น Sentiment เชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม Mid- Small Cap ที่ตลาดมีความกังวลกันก่อนหน้า
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่าหากมีการเลื่อนเก็บภาษีขายหุ้นออกไปอย่างที่กระแสข่าวมี จะช่วยหนุนสภาพคล่องให้กลับมาคึกคัก รวมถึงต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทย
ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ยังมองอีกด้วยว่า SET บริเวณใกล้ 1610 จุด ยังเป็นโซนน่าสะสมและจากประเด็นที่กล่าวมา อาจจะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมา Outperform ได้ไม่ยาก
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส