หุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีให้เลือกลงทุนมากกว่า 800 ตัว นักลงทุนรุ่นใหม่และรุ่นเก่าจะมีปัญหาร่วมกันอย่างหนึ่งคือ ในบางช่วงเวลาไม่รู้ว่าจะลงทุนหุ้นตัวไหนดี ไม่รู้จะเริ่มต้นทำความรู้จักกับหุ้นใหม่ๆ(ที่ยังไม่เคยลงทุน)ตัวไหนดี
รุ่นใหม่อาจจะงงว่าหุ้นมีจำนวนเยอะมาก จะเริ่มยังไง รุ่นเก๋าอาจจะปรับพอร์ตทำกำไรจากหุ้นที่เราเคยรู้จักดี พอมีเงินสดถือไว้มากๆก็ต้องหาทางเลือกหุ้นชุดใหม่ที่ราคายังถูก(undervalue)เพื่อกลับเข้าไปลงทุน ก็จะเจอกับมหาสมุทรจำนวนหุ้นมากมาย แถมหุ้น IPO ใหม่ๆก็มีเข้ามาทุกเดือน
วิธีการหาหุ้นมีอยู่หลายวิธีมาก ขึ้นกับความถนัด ความชอบ และสไตล์ส่วนบุคคล
- บางคนอาจจะใช้วิธีการ “สแกนหาหุ้น” คือการคัดกรองหุ้นเบื้องต้น เพื่อให้เราประหยัดเวลาในการหากลุ่มรายชื่อหุ้นที่จะเอาไปศึกษาพื้นฐานอย่างละเอียดต่อไป
- อาจจะใช้วิธีการดูจากเว็บไซท์ settrade.com ที่แต่ละวันจะมีข้อมูล Most Active Value หุ้นมีที่มูลค่าซื้อขาย (เอาจำนวนหุ้นคูณด้วยราคาต่อหุ้น) มากที่สุดในวันนั้นซึ่งมักจะเป็นหุ้นที่มี Market Cap ใหญ่ๆ หรือดูรายชื่อจาก Most Active Volume หุ้นที่มีปริมาณหุ้นซื้อขายมากที่สุดในแต่ละวัน
- หรือบางคนอาจจะใช้ระบบคัดกรองหุ้นแบบใส่เงื่อนไขพื้นฐานต่างๆ เช่น Net Profit Margin, D/E, ROE, ฯลฯ ของเราเองได้เลย เป็นการสแกนตามเงื่อนไขพื้นฐานที่เราต้องการ
- บางคนอาจจะได้หุ้นมาศึกษาต่อ จากเพื่อนแนะนำ จากการเข้าไปเจอในเวปบอร์ดที่นักลงทุนเขาถกกันแล้วน่าสนใจ หรืออ่านเจอจากเว็บไซท์หนังสือพิมพ์
- บางคนอาจมองหาจากสิ่งใกล้ๆตัว ที่สามารถเดินเข้าไปดูกิจการด้วยตาเนื้อ เป็นวิธีที่ค่อนข้างง่ายแต่ได้ผลดีน่าสนใจใช้สามัญสำนึกจากการใช้ชีวิตประจำวัน
ในแต่ละวัน คนกรุงเทพฯต้องเดินทางเข้าพื้นที่เมืองเพื่อเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศ ใช้ชีวิตเช้าจรดค่ำ โอกาสที่จะเจอกิจการในตลาดหลักทรัพย์มีมากมาย
- ถ้าขับรถยนต์ก็อาจจะต้องขึ้นทางด่วน ในเมือง (BEM) ทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ (DMT) หรืออาจเป็นทางด่วนบูรพาวิถีและทางด่วนเอกมัยรามอินทรา (TFFIF) เราจะเห็นพัฒนาการของปริมาณทราฟฟิกในทุกๆวัน
- ถ้าขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเขียว เราจะเห็นพัฒนาการของความแน่นบนรถไฟฟ้า (BTS) และปริมาณโฆษณาบนสถานีและตัวรถ (VGI) หรืออาจเป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและม่วง(BEM)
- ถ้าเข้าปั๊มเติมน้ำมัน จะได้สัมผัสบริการของปั๊มปตท. (OR) ปั๊มพีที (PTG) ปั๊มบางจาก (BCP) และได้ลองบริการเครื่องดื่มกาแฟของปั๊มซึ่งเป็นกิจการนอนออยล์ของหุ้นแต่ละตัว
- กลางวันเราอาจจะเดินเข้าร้าน 7-11 (CPALL) อาจจะใช้บริการและจ่ายค่าโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตที่ศูนย์บริการ (ADVANC | TRUE)
- ตกเย็น เราอาจจะเดินห้างช้อปปิ้งก่อนกลับบ้าน เข้าห้างบิ๊กซี (BJC) ไปเดินห้างโลตัส (LPF) ห้างเซนทรัล (CPN | CRC) ห้างโฮมโปร (HMPRO) ห้างโกลบอลเฮาส์(GLOBAL) หรือ ไปเดินเที่ยวประตูน้ำห้างแพลตตินั่ม (PLAT) กินอาหารกินสุกี้ในห้าง (M | ZEN)เข้าซุปเปอร์มาร์เกตเจอสารพัดอาหารและเครื่องดื่มของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (TKN | BTG | CPF | ICHI | SAPPE | OSP ฯลฯ)
จะเห็นได้ว่าชีวิตประจำวันของเรามีกิจการในตลาดหุ้นเกี่ยวข้องอยู่ตลอดเวลา การที่เราเริ่มเลือกหุ้น(เพื่อไปศึกษาและทำการบ้านต่อ)จากชีวิตประจำวันนั้นมีข้อดีคือ เราจะรู้ว่าหุ้นตัวนั้นมีสินค้าและบริการคืออะไร มีรายได้จากอะไร แข่งขันได้หรือแข่งขันไม่ได้ แม้แต่ตัวเราเองอยากจ่ายเงินซื้อสินค้าของเขาหรือไม่ นี่คือคำถามพื้นฐานแต่สำคัญยิ่ง
หลังจากที่เรารู้แล้ว ว่าชีวิตเรามีหุ้นอะไรเกี่ยวข้องบ้าง ได้จุดเริ่มต้นการสัมผัสสินค้าและบริการในชีวิตประจำวัน เรานำมันมาหาข้อมูลเพื่อศึกษาเชิงลึกต่อ อาจจะเริ่มที่การอ่าน 56-1 หรือ Annual Report ก็ได้
แต่ในสมัยปัจจุบันมีวิธีหาข้อมูลที่ง่ายและเร็วคือการค้นหาใน Youtube ซึ่งกิจการจำนวนมากมีข้อมูลบริษัทและคลิปสัมภาษณ์ผู้บริหารอยู่ในนั้น และหลายๆกิจการมาออก Opportunity Day ด้วย ทำให้เราได้รับข้อมูลมากมาย ข้อมูลที่ต้องศึกษานอกจากธุรกิจปัจจุบันทำอะไรแล้ว ยังต้องหาข้อมูล สถานการณ์แข่งขันในตลาด แนวโน้มการเติบโตและการขยายธุรกิจเป็นอย่างไรอีกด้วย
สุดท้ายเราสามารถเปรียบเทียบมุมมองของเรา กับบทวิเคราะห์หุ้นที่จัดทำโดยนักวิเคราะห์มืออาชีพ ที่ให้ความคิดเห็นต่อหุ้น ว่าธุรกิจเป็นอย่างไร มีเหตุการณ์ใดที่สำคัญ ประมาณการ outlook เป็นอย่างไร และราคาเป้าหมายคือเท่าไหร่ คิดมาด้วยวิธีใด เพื่อใช้ประกอบในการตัดสินใจก่อนลงทุนครับ