ภาพรวมของผลประกอบการหุ้นไทย พอจะสรุปภาพออกมาได้แล้วว่า "น่าผิดหวัง"
โดยรายงานออกมา 538 บริษัท คิดเป็นสัดส่วน Market Cap ที่ 92%
กำไรอยู่ที่ 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งต่ำกว่า Bloomberg Consensus มากถึง 40%
แต่สิ่งที่เราจะมองข้ามไม่ได้ คือ รายการที่เป็น "ขาดทุนพิเศษ"
เพราะต้องยอมรับว่ารายการขาดทุนพิเศษของหุ้นไทยไตรมาส 4 ปี 2565 ค่อนข้างเยอะเป็นพิเศษ
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส ได้รวบรวม 15 หุ้นที่มีรายการพิเศษมากที่สุด
ตัวอย่างเช่น
1. Banpu ขาดทุนสุทธิไตรมาส 4 ปี 2565 ที่ 278 ล้านบาท
มีขาดทุนพิเศษ 22.58 พันล้านบาท
2. IVL ขาดทุนสุทธิไตรมาส 4 ปี 2565 ที่ 11.47 พันล้านบาท
มีขาดทุนพิเศษ 11.65 พันล้านบาท
3. TRUEE ขาดทุนสุทธิไตรมาส 4 ปี 2565 ที่ 18.28 พันล้านบาท
มีขาดทุนพิเศษ 9.7 พันล้านบาท
4. PTT ขาดทุนสุทธิไตรมาส 4 ปี 2565 ที่ 17.87 พันล้านบาท
มีขาดทุนพิเศษ 7.7 พันล้านบาท
ซึ่งถ้าเราหักรายการขาดทุนพิเศษแล้ว พบว่า กำไรพิเศษของหุ้นไทยจะเพิ่มขึ้นมาถึง 2.03 แสนล้านบาท หักออกไปราวๆ 6.1 หมื่นล้านบาท
ซึ่งก็ยังต่ำกว่าปี 2564 อยู่ราวๆ 26%
พูดง่ายๆ คือ ถึงแม้จะหักรายการขาดทุนพิเศษไปแล้ว หุ้นไทยก็ยังมีผลประกอบการที่ลดลงประมาณ 26% yoy และต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ราวๆ 23.1% อีกอยู่ดี
- เผยเคล็ดลับ “ทำไมเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ จึงต้องการ Leverage จาก TFEX”
- OR กำลังตั้งเป้าเป็นผู้นำ EV Ecosystem
- กรณีศึกษา SHR ล้างขาดทุนสะสมเพื่อจ่ายปันผลในอนาคต
คำถามสุดท้าย คือ จากภาพของผลประกอบการไตรมาส 4 ของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาไม่สดใส
เป้าหมายของ SET Index ควรอยู่ที่เท่าไร กันแน่ ?
คำตอบคือ ดัชนีเป้าหมายควรอยู่ที่ 1610 จุด ...
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า EPS ของหุ้นไทยในปี 2566 น่าจะอยู่ที่ราวๆ 1.12 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น EPS ที่ 91.8 บาทต่อหุ้น
จากข้อมูลเดิมที่ 1.27 ล้านบาท หรือคิดเป็น EPS ที่ 99.2 บาท
และอ้างอิงสมมุติฐานของเป้าหมายดัชนี จาก 3 เงื่อนไขด้วยกันคือ
1. ค่า P/E Ratio หุ้นไทยควรจะอยู่ที่ 17.54 เท่า
2. ค่า Earning Yield Gap อยุ่ที่ 4.2%
3. ดอกเบี้ยนโยบาย 1.5%
ดังนั้นเป้าหมายหุ้นไทย จะอยู่ที่ 1610 จุด
อนึ่ง Earning Yield Gap คือ ส่วนต่างระหว่าง Earning Yield ของตลาดหุ้น เทียบกับ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว (Government Bond Yield) ซึ่งมักจะใช้พันธบัตรอายุ 10 ปี
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส