ผลประกอบการของ MAKRO ออกมาเป็นที่เรียบร้อย
โดยรายได้ปกติอยู่ที่ 4.60 แสนล้านบาท มากกว่าปี 2564 ที่ทำได้ 2.61 แสนล้านบาท (เติบโต 76.3%)
ในชณะที่กำไรสุทธิไตรมาส 4 ปี 2565 บริษัททำได้ 2.47 พันล้านบาท ดีกว่าไตรมาส 3 ในปีเดียวกันที่ทำได้ 1.60 พันล้านบาท +54.3% QoQ
แต่แย่กว่าไตรมาส 4 ปี 2564 ที่ทำได้ 9.09 พันล้านบาท -72.8% YoY
พูดง่ายๆ คือ เติบโต QoQ แต่ลดลง YoY
ทำให้กำไรสุทธิทั้งปี 2565 ของ MAKRO อยู่ที่ 7.69 พันล้านบาท
น้อยกว่าทั้งปี 2564 อยู่ที่ 13.68 พันล้านบาท ... ลดลง 43.8% YoY
สาระสำคัญของผลประกอบการครั้งนี้ คือ
1. รายได้ของห้าง Makro อยู่ที่ 2.4 แสนล้านบาท เติบโต 10% ในขณะที่รายได้ของ Lotus's อยู่ที่ 2.04 แสนล้านบาท
.
2. บริษัทมีรายได้จากค่าเช่าที่ภายในห้างสรรพสินค้าที่ 1.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นมากจากเมื่อปีที่แล้วทำได้เพียง 2.6 พันล้านบาท เป็นสัญญาณว่าสัญญาณการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างเต็มที่
.
3. อัตรากำไรขั้นต้นภาพรวมอยู่ที่ 16.7% ลดลงจากที่เคยทำได้ 16.9%
.
4. ค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้น 28% โดยเฉพาะการทุ่มงบไปกับการปรับปรุงสาขาของ Lotus's
.
5. ดอกเบี้ยจ่าย Lotus's ยังสูง อยู่ที่ 2.2 พันล้านบาทและยังโดนกดดันด้วยหนี้สกุล US ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวท่ามกลางเงินบาทอ่อนค่าลง
พูดโดยภาพรวม คือ ภาพรวมออกมาดี อย่างที่ตลาดคาดกันไว้ก่อนหน้า ไม่ได้มีเซอร์ไพรส์
ผลประกอบการ Lotus's ช่วยหนุน Makro ได้ดีแต่ก็ถูกหักล้างจากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น และดอกเบี้ยจ่ายที่ยังสูงอยู่
- การเติบโตของ CHASE อยู่ตรงไหน ?
- การขาดทุนของ OR อาจจะไม่ได้น่ากังวลอย่างที่คิด
- บริษัทลูกกำลังจะทำให้ PTT มีผลประกอบการที่ดีในปี 2566
คำถาม คือ ถ้าเรามองไปในอนาคตปี 2566 MAKRO จะเป็นอย่างไรต่อไป ?
คำตอบ คือ กำไรปี 2566 เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง จาก
1. กำลังซื้อยังสูง เศรษฐกิจเติบโตดี การท่องเที่ยวฟื้นตัว
2. รายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น จากการปรับเพิ่มราคาเช่า
3. มีแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มสูงขึ้น ตามฐานรายได้ที่เพิ่มขึ้น
4. ที่สำคัญคือ ดอกเบี้ยจ่ายจะเริ่มลดลง โดยเฉพาะสกุลเงิน US ที่มีกำหนดชำระคืนกลางปี 2566
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า ผลประกอบการของ MAKRO ในปี 2566 กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 59% yoy
และในปี 2567 จะอยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท เติบโต 43% yoy
ถือเป็นอีกหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่นักลงทุนควรจับตาอย่างมากครับ ...
อนึ่ง MAKRO ประกาศจ่ายปันผล 0.33 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 เมษายน และจ่ายปันผลวันที่ 17 พฤษภาคม คิดเป็น Dividend Yield ประมาณ 0.8%
อีกทั้ง บริษัทมีการแจ้งเปลี่ยนชื่อ MAKRO เป็น CP AXTRA และเปลี่ยนชื่อย่อหลักทรัพย์เป็น CPAXT รอเสนอที่ประชุมวันที่ 20 เมษายน 2566
------------------------------------------------------------------------------
Reference
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย