ดูเหมือนว่าสงครามการแข่งขันทางด้าน AI จะดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ
... การเข้าลงทุนใน ChatGPT ของ Microsoft
... วิศวกรของ META บอกว่า ChatGPT ไม่ใช่เรื่องใหม่ หลายๆองค์กรก็ทำได้
... Google เปิดตัว Chatbot ที่มีชื่อว่า "Bard"
... Baidu ของจีน เปิดตัว OpenAI ใหม่ในชื่อว่า "ERNIE Bot"
โดยเฉพาะ 2 ประเด็นหลัง คือ
Google เปิดตัว Bard ซึ่งจะถูกนำไปพัฒนาร่วมกับ Search Engine ที่มีฐานผู้ใช้อยู่ทั่วโลก
และ Baidu เปิดตัว ERNIE Bot อย่างเป็นทางการ และถือเป็นก้าวแรกของ AI bot ในจีน
สื่อต่างชาติมองว่าการเปิดตัว ERNIE Bot ของ Baidu จะช่วยให้
1. เพิ่มความสามารถทางการแข่งขันของบริษัทเทคโนโลยีในจีน เทียบเคียงกับสหรัฐอเมริกา
2. ในอนาคต Google อาจจะต้องเจอกับคู่แข่งที่มีความสามารถพอๆกัน คือ Baidu โดยเฉพาะแพลตฟอร์ม Search Engine ของ Google ที่อาจจะโดนแย่งส่วนแบ่งการตลาดไป
3. หนุนการโฆษณาของ Baidu ในอนาคตให้ตรงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น
แน่นอนว่า ประเด็นนี้นักลงทุนมองเป็นบวก ส่งผลให้ราคหุ้น Baidu ดีดแรง 15% ภายในวันเดียว
- StockRadars เปิดตัว StockRadars PLUS ต่อยอดให้บริการข้อมูลการลงทุนหุ้นสหรัฐอเมริกา พร้อม ETF
- CRC กำลังจะเป็นเบอร์ 1 ในด้าน Next-Gen Omni Retailer ของเอเชีย
- BVG ผู้นำแพลตฟอร์มธุรกิจประกันด้วย AI และ Big Data
แต่ถ้าเราถามว่า บริษัทไหนควรจะได้ประโยชน์มากที่สุดจากการแข่งขันทางด้าน AI
คำตอบ คือ NVIDIA ...
Nvidia คือบริษัทผลิตการ์ดจอระดับโลก ที่จะช่วยในการประมวลผลให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สื่อต่างชาติวิเคราะห์ว่า การแข่งขันที่ดุเดือดทางด้าน AI ธุรกิจต้นน้ำน่าจะได้ประโยชน์มากที่สุดก็คือผู้ผลิต CPU อย่าง Intel และ AMD แต่เนื่องจากว่าด้วยการแข่งขันในอุตสาหกรรมการ CPU และเทคโนโลยีที่ใกล้เคียงกันไม่น่าจะทำให้ 2 บริษัทนี้ได้ประโยชน์มากนักในระยะยาว
จะเหลือเพียงแต่ NVIDIA ที่เรียกได้ว่าเป็นเบอร์ 1 ในอุตสาหกรรม GPU ผลิตการ์ดจอเพื่อการประมวลผล
ยิ่งคนลงทุนทางด้าน AI เพิ่มขึ้น ก็ต้องการชิปประมวลผลที่แรงและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
และ NVIDIA คือผู้ที่จะได้ประโยชน์สูงที่สุด