เมื่อคืนที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีการประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.25% 
ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายมาอยู่ที่ 4.50%-4.75%
ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี และเป็นการขึ้น 8 ครั้งติดต่อกัน

FED แสดงความคิดเห็นว่าเงินเฟ้อชะลอตัว แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับสูงในมุมมองของธนาคารกลาง จำเป็นจะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป 
ตลาดมองว่า การขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นเรื่องที่คาดกันไว้อยู่แล้ว และครั้งหน้า FED ก็อาจจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25%

ประเด็นที่น่าสนใจ คือ เวลามีเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ย สินทรัพย์เสี่ยงจะถูกเทขาย แต่ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่แปลก เพราะ FED ประกาศขึ้นดอกเบี้ย และมีแนวโน้มจะขึ้นอีก 0.25% ในครั้งหน้า 
แต่สินทรัพย์เสี่ยงกลับพุ่งขึ้น โดย ...
... ดัชนี NASDAQ +2%
... ดัชนี S&P500 +1.05%
... ดัชนี DAX +0.35
และสัญญาณ Sentiment เชิงบวกก็ยังส่งต่อมายังตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้อีกด้วย 

• เรากำลังจะเห็นการชะลอตัวแบบ Soft Landing
• อัตราดอกเบี้ยกับ SET Index ควรอยู่ที่เท่าไร ? 
• เราอาจจะไม่เห็นยุโรปเข้าสู่ Recession 

ถามว่า ทำไมการขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ “หุ้นถึงขึ้น”
คำตอบ คือ นักลงทุนกำลังชินชากับเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย 
และมองว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะนำไปสู่ประเด็นบวกด้วยกัน 2 ประการ คือ

1. ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี 
ตัวเลขเศรษฐกิจของอเมริกาออกมาดี ไม่ว่าจะเป็น
... ดัชนี PMI ที่ฟื้นตัวจากโควิด (และในอีกหลายประเทศ) สะท้อนว่าภาคธุรกิจขยายตัว
... อัตราการว่างงาน ปรับตัวลดลงอย่างมากสะท้อนว่าคนว่างงานน้อยลง (ว่ากันว่า คน 1 คน สามารถรับงานได้ถึง 2 งาน) และกลับเข้ามาสู่สภาวะก่อนโควิด
... อัตราเงินเฟ้อ เริ่มลดลงตามราคาพลังงาน 
พูดง่ายๆคือ นักลงทุนมองว่า การขึ้นดอกเบี้ยเป็นแค่มาตราการในการควบคุมเงินเฟ้อเท่านั้น ไม่ได้กระทบกับเศรษฐกิจมากนัก

2.. นักลงทุนเห็นเพดานการขึ้นดอกเบี้ยเริ่มจำกัดมากขึ้น 
ตลาดมองว่า FED มีแนวโน้มชะลอการขึ้นดอกเบี้ยอย่างที่เคยคาดกันเอาไว้ ซึ่งตลาดมองว่าเพดานของดอกเบี้ยอยู่ที่ 5.0% ปัจจุบันอยู่ที่ 4.5-4.75% 
ซึ่งหมายความว่า เราจะเห็นการขึ้นดอกเบี้ยของ FED อีกครั้งเดียวเท่านั้นตลอดปีนี้

สิ่งที่สำคัญ คือ นักลงทุนเห็นว่าการขึ้นดอกเบี้ยเป็นเรื่องที่ถูกรับรู้มานานพอสมควรแล้ว 
ดังนั้นการขึ้นดอกเบี้ยอีก ไม่น่าจะเป็นปัจจัยให้สินทรัพย์เสี่ยงถูกเทขาย
สิ่งที่ตลาดรออยู่ตอนนี้ ประเด็นข่าวลบใหม่ๆที่ตลาดยังไม่นึกถึงมาก่อน 
เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่มี สินทรัพย์เสี่ยงก็ยังมีแรงซื้ออยู่ต่อไปครับ