เข้าสู่ช่วงไตรมาส 1 ของปี 2566 สิ่งที่น่าตื่นเต้นของนักลงทุน คือ การจะได้เห็นตัวเลขผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยเต็มปี 2565 ว่าจะเป็นอย่างไร เติบโตมากน้อยแค่ไหน
ถามว่า ภาพรวมของบริษัทจดทะเบียนไทย จะออกมาในลักษณะไหน
คำตอบคือ เติบโต แต่เป็นลักษณะเล็กน้อยเท่านั้น
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า วิเคราะห์ว่า กำไรของบริษัทจดทะเบียนใน SET Index จะอยู่ที่ 2.7 แสนล้านบาท คิดเป็นการฟื้นตัวราวๆ 15% QoQ และเติบโตเล็กน้อย 3% YoY
ด้วยสาเหตุหลักของการเติบโต มาจาก 3 ส่วนด้วยกัน คือ
1. การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว
2. การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจาก 328 บาท เป็น 354 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565
3. กำลังซื้อฟื้นตัว ความต้องการสินค้าและบริการที่เร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
4. ผลขาดทุนจากสต็อคน้ำมันดิบของกลุ่มพลังงาน ลดความรุนแรงลง
กลุ่มที่จะโดดเด่น คือ ธนาคารพาณิชย์ โรงไฟฟ้า ไฟแนนซ์ ท่องเที่ยว ยานยนต์ บันเทิง
ส่วนกลุ่มที่ชะลอตัว คือ การแพทย์ และปิโตรเคมี
... พูดง่านๆคือ กลุ่มที่ดี คือกลุ่มที่ไม่ดีก่อนหน้าที่เคยได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และภาวะเงินเฟ้อที่สูง
ส่วนกลุ่มที่ไม่ดี คือ กลุ่มที่ดีก่อนหน้า เช่น กลุ่ม Global Play ที่มาจากฐานสูงในปีก่อน
- เราอาจจะไม่เห็นยุโรปเข้าสู่ Recession
- FundFlow อาจจะทำให้หุ้นไทยแตะระดับ 1,820 จุด
- EA คือ หุ้นไทยที่โดดเด่นที่สุดในกระแสรถ EV
ประเด็นคือ ถ้าผลประกอบการเติบโต (เล็กน้อย) จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยอย่างไร ?
บทวิเคราะห์มองว่า กระแสเงินยังไหลเข้าต่อเนื่อง เพื่อเก็งกำไรผลประกอบการที่อาจจะมีเซอร์ไพรส์และเงินปันผล จาก 3 ประเด็นหลักด้วยกันคือ
1. เงินปันผลที่จูงใจและประเด็นบวกเรื่องของการเลือกตั้ง จะทำให้ตลาดคึกคัก
2. ผลประกอบการบางบริษัทอาจจะมีเซอร์ไพรส์ งบสวยและจุงใจให้เก็งกำไรมากกว่าไตรมาส 3 ปี 2565 ที่ภาพรวมออกไปในทางชะลอตัว
3. มีโอกาสเกิด Buy on Fact มากกว่า Sell on Fact เพราะตลาดไม่ได้คาดหวังสูง และมีหลายกลุ่มที่ผลประกอบการมีโมเม้นตัมของการฟื้นตัวในไตรมาส 1 ปี 2566 เช่น แบงก์ โรงไฟฟ้า ค้าปลีก สื่อสาร
โดยสรุปแล้ว ทุกกลุ่มมีแนวโน้มของการเติบโตแต่เป็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยกเว้นกลุ่มการแพทย์ที่กำไรสุทธิลดลงเพราะฐานที่สูงอยู่ก่อนหน้าแล้วจากช่วงโควิด
แต่เราต้องไม่ลืมว่าการขึ้นมาของ SET Index ตั้งแต่ต้นปีมานี้ ถือว่าขึ้นมาค่อนข้างมากจากแรงหนุนของ FundFlow ดังนั้นการลงทุนจะต้องมีความระมัดระวังเพิ่มขึ้นครับ
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า