#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน
#มือใหม่เริ่มลงทุน

LTF กำลังจะกลับมา ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยมากแค่ไหน ?

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
1,378 views

เมื่อไม่นานมานี้ มีกระแสข่าวที่น่าสนใจมาก คือ 
รมช.คลัง จ่อมอบหมายกรมสรรพากร ศึกษาแผนฟื้น LTF กู้วิกฤตหุ้นไทย 
โดยได้มีการศึกษา การนำกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กลับมาดำเนินการอีกครั้ง 
เพื่อกระตุ้นบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่ซบเซาในช่วงนี้  
แต่ยังต้องหารือกับ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ในลำดับถัดไป

 

LTF หรือ Long – Term Equity Fund กองทุนรวมหุ้นระยะยาว คือ กองทุนรวมที่เน้นการลงทุนระยะยาวในหุ้น เพื่อส่งเสริมให้เกิดเสถียรภาพในระบบตลาดทุนไทย 
ซึ่งเงินลงทุนใน LTF สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีทั้งปี และไม่เกิน 500,000 บาท 
โดยมีเงื่อนไขว่าต้องถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 7 ปีปฎิทิน
ทั้งนี้ การซื้อกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษี สิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2562 
ปัจจุบันมีกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) มาแทน โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป

 

คำถาม คือ ถ้า LTF กลับมาจริงๆ จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยแค่ไหน ? 
คำตอบ คือ ส่งผลดีใน 5 มิติด้วยกัน คือ

1. มิติในแง่ของแรงขายจากสถาบัน จะลดลง
ถ้าเราติดตามตลาด จะพบว่าหลังจากหมดโครงการ LTF และถูกแทนที่ด้วย SSF 
ตลาดหุ้นไทยก็มีแรงเทขายจากนักลงทุนสถาบันมาอย่างต่อเนื่อง 
โดยข้อมูลตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2564 - เมษายน ปี 2567 เป็นผู้ขายหุ้นไทยมากที่สุด ถึง 1.5 แสนล้านบาท
ซึ่งมากกว่าต่างชาติที่ขายหุ้นไทยไปราวๆ 1.03 แสนล้านบาท เท่านั้น 
ดังนั้น การเข้ามาของ LTF จะทำให้มีเม็ดเงินใหม่ๆเข้ามา และชะลอแรงขายจากนักลงทุนสถาบันไปได้

 

2. มิติในแง่ของ หักล้างการ Redeem ใน LTF เก่า
ในช่วงที่ LTF สิ้นสุดไป ก็ไม่มีเม็ดเงินใหม่ๆเข้ามา มีแต่เม็ดเงินที่ทยอยถอนออกไปเรื่อยๆ
จากข้อมูลในปลายปี 2562 มีเม็ดเงินจาก LTF ถือหุ้นไทยอยู่ประมาณ 4.06 แสนล้านบาท
แต่พอมาในเดือนเมษายน ปี 2567 มูลค่าคงค้างจาก LTF อยู่ที่ 2.47 แสนล้านบาท หายไปกว่า 1.59 แสนล้านบาท 
หมายความว่า การที่ไม่มีเม็ดเงิน LTF ใหม่ๆเข้ามา ตลาดหุ้นไทยก็จะถูกแรงกดดันจากแรงขาย LTF คงค้างต่อไป

 

3. มิติในแง่ของการ Short Sell
เราปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดหุ้นไทยที่ Underperform มาตลอด เกิดจากการโดน Short Sell ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่ลดลงเรื่อยๆ
ทำให้ตลาดหุ้นไทยเป็นแนวโน้มขาลง มากกว่าจะขึ้นได้ 
แต่หากมีเม็ดเงิน LTF เข้ามาจะช่วยพยุงตลาดระยะสั้นได้ เพราะผู้ลงทุน LTF จะหาจังหวะสะสมในช่วงที่ตลาดย่อตัวลงมา

 

4. มิติในแง่ของเม็ดเงินใหม่ๆเข้ามาในตลาด
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส มองว่า เม็ดเงิน LTF ใหม่เข้ามาราวๆ 6-7 หมื่นล้านบาทต่อปี
จะช่วยหนุนสภาพคล่องในระบบเพิ่มขึ้น

 

5. มิติในแง่ของ การหนุนสภาพคล่อง หรือ Turnover ในระบบให้สูงขึ้น 
ข้อมูลจากอดีตบอกว่า ช่วงที่มี LTF อยู่ สภาพคล่องเฉลี่ยอยู่ที่ 80% ต่อปี 
แต่พอไม่มี LTF ทำให้ปัจจุบัน สภาพคล่องเฉลี่ยเหลือเพียง 62% 
ดังนั้น ถ้ามี LTF เข้ามาจะช่วยหนุนให้สภาพคล่องตลาดสูงขึ้น มูลค่าซื้อขายอาจจะกลับไปแตะ 5.5 หมื่นล้านบาทต่อวัน
ซึ่งมากเพียงพอให้ตลาดหุ้นไทยขยับขึ้น และให้กลับมาคึกคักได้ในระยะถัดไป

 


โดยสรุป คือ การนำ LTF กลับมายังเป็นแค่แนวความคิดเท่านั้น ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ
และยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับ รูปแบบ และ เงื่อนไข ของกองทุน LTF ใหม่ ต้องรอติดตามการหารือระหว่าง กระทรวงการคลัง และ สมาคมบลจ. ต่อไป
แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงๆ จะเป็นการกระตุ้นตลาดหุ้นไทยให้กลับมาคึกคัก และเป็นทางเลือกเพิ่มขึ้นเพื่อการลดหย่อนภาษีของคนวัยทำงาน ที่ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดครับ

------------------------------------------------------------------------------
Reference
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

setinvestnow.com

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส 


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง