ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่นักลงทุนในตลาดหุ้นจับตากันเป็นอย่างมาก
สำหรับ JKN หรือ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 
โดยเมื่อวาน บริษัทประกาศผลประกอบการออกมา "ขาดทุน" หนักถึง 2.12 พันล้านบาท
ไม่เพียงแค่การขาดทุนอย่างเดียว แต่ยังมีอีกหลายประเด็นที่ออกมาพร้อมๆกัน ไม่ว่าจะเป็น
- การที่ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความคิดเห็น
- การขึ้นเครี่องหมาย SP และ CS หยุดการซื้อขาย และขึ้นเครื่องหมาย Caution เตือนนักลงทุน

ถ้าเราย้อนกลับมาดูผลประกอบการของ JKN ที่ขาดทุนหนักถึง 2.12 พันล้านบาท พบว่า
1. รายได้ลดลงเหลือ 2,495 ล้านบาท หรือลดลง 6.5% เมื่อเทียบกับปี 2565 
โดยสาเหตุมาจาก รายได้จากการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ และขายผลิตภัณฑ์ลดลง

2. พลิกกลับมาขาดทุน 2.12 พันล้านบาท จากเดิมที่ผลประกอบการมีกำไรราวๆ 608 ล้านบาท 
ซึ่งหลักๆมาจากการ มีการตั้งด้อยค่าทรัพย์สิน และตั้งสำรองหนี้เสีย รวม 2,259 ล้านบาท
ประเด็นนี้สำคัญมาก เพราะถ้าเราเจาะลึกลงไป จะพบอีก 5 รายการ คือ 
- ขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ไม่มีตัวตน-ลิขสิทธิ์คอนเทนต์ 842 ล้านบาท
- ขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัทย่อย 619 ล้านบาท
- ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 495 ล้านบาท
- ขาดทุนจากการด้อยค่าเครื่องหมายการค้าและค่าความนิยม 272 ล้านบาท
- ตั้งสำรองด้อยค่าสินทรัพย์อื่น 31 ล้านบาท

เมื่อบริษัทขาดทุนเป็นเรื่องน่ากังวลแล้ว
แต่การที่ผู้ตรวจสอบบัญชีไม่แสดงความเห็นเป็นเรื่องที่น่ากังวลยิ่งกว่า และ JKN ก็เป็นแบบนั้น 
ซึ่งเป็นเรื่องที่ใหญ่และสั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างมาก 
โดยสาเหตุที่ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินนั้น เพราะมีความไม่แน่นอนอยู่ 3 ประเด็นหลักด้วยกัน คือ 
1. ขาดสภาพคล่องทางการเงินและการผิดนัดชําระหนี้ ทั้งหุ้นกู้และเงินกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่ง JKN ไม่สามารถเจรจาต่อรอง หรือหาแหล่งเงินทุนมาจ่ายหนี้สินที่ผิดนัดชําระได้

2. การยื่นคําร้องขอฟื้นฟูกิจการของ JKN ซึ่งศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งรับคำร้อง และมีผลให้หยุดพักชำระหนี้ 
ทำให้ยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องของสภาพคล่องและการชำระหนี้ เพราะยังมีความเสี่ยงจากการฟ้องร้องของเจ้าหนี้ และยังต้องรอคำตัดสินของศาล ว่าจะมีการฟื้นฟูกิจการหรือไม่

3. การจัดหาเงินและสภาพคล่องเพื่อใช้ในการดําเนินงาน
โดยในรายงานระบุว่า เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอน ในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจ คําสั่งของศาลล้มละลายกลาง รวมถึงความสามารถในการประกอบธุรกิจของ JKN ซึ่งทั้งหมดอาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าสินทรัพย์และหนี้สินอย่างมีนัยสำคัญ

• สรุปไทม์ไลน์ หุ้น JKN เกิดอะไรขึ้น สิ่งที่นักลงทุนอยากรู้ตอนนี้ คืออะไร ? 
• MBK เจ้าของห้างมาบุญครอง - พาราไดซ์พาร์ค ที่จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการเข้ามาซื้อขายของ "สยามพิวรรธน์"
• AU ขนมหวาน 8 พันล้าน กับ Growth Story ระดับ "เลขสองหลัก"

และการที่ผู้ตรวจสอบบัญชีไม่แสดงความคิดเห็น
ส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย SP หรือ Suspension หยุดการซื้อขายหุ้น JKN ในเมื่อวานที่ผ่านมา
และสำหรับวันนี้ตลาดหลักทรัพย์จะยังขึ้นเครื่องหมาย CS ต่อไป 
เพื่อเตือนนักลงทุนว่า รายงานของผู้สอบบัญชีฉบับล่าสุดมีลักษณะไม่แสดงความเห็น 
จนกว่าบริษัทจะนำส่งงบการเงินที่ไม่มีลักษณะไม่แสดงความเห็น มาให้กับทางตลาดหลักทรัพย์

ทั้งนี้ เครื่องหมาย CS (Financial Statements) เครื่องหมายนี้ มีไว้เพื่อเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังและศึกษาข้อมูลในงบการเงินของบริษัทโดยละเอียด

โดยสรุปแล้ว JKN กำลังเจอกับปัญหาสภาพคล่องอย่างหนัก 
เริ่มตั้งแต่การขายหุ้นของผู้บริหาร การเพิ่มทุน และการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้
โดยสาเหตุหลักมาจาก
- การลงทุนในธุรกิจใหม่ที่ยังไม่สร้างรายได้
- การบริหารจัดการเงินทุนที่ไม่ดี
สิ่งที่นักลงทุนพอจะทำได้ คือ ติดตามหุ้น JKN กันอย่างใกล้ชิดว่าจะเป็นอย่างไรกันต่อไป 
เพราะดูเหมือนว่าปัญหาที่เกิดขึ้น อาจจะลากยาวและยาวนานกว่าที่คิดกันเอาไว้

คำเตือน : การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน

------------------------------------------------------------------------------
Reference
สรุปผลการดำเนินงาน : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ชี้แจงผลรายงานผู้สอบบัญชีกรณีไม่แสดงความเห็น : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

เงื่อนไขการขึ้นเครื่องหมาย : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย