ในสภาวะที่ตลาดไม่ดี ย่อมมีหุ้นที่ Outperform ตลาดอยู่เสมอ
คำพูดนี้อาจจะไม่เกินจริงเท่าไรนัก ถ้าเราพูดถึงหุ้น SPA หรือ บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ผู้ทำธุรกิจสปาเพื่อสุขภาพ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจสปา ซึ่งได้รับอานิสงค์อย่างมากจากการท่องเที่ยวไทยที่กำลังบูมอยู่ตอนนี้
ถ้าใครสังเกตราคาหุ้นจะพบว่า ราคาหุ้น Outperform ตลาดหุ้นไทยอย่างมาก
โดย 1 เดือนมานี้ ราคาหุ้น +7% เข้าไปแล้ว
และถ้าใครถือมานาน 12 เดือน จะได้กำไรไปแล้วประมาณ +11%
ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า ทำไมหุ้น SPA ถึงทำผลงานได้ดีโดดเด่นเหนือหุ้นท่องเที่ยวตัวอื่นๆอย่างมาก
คำตอบหนึ่งที่น่าสนใจ คือ การเติบโตเด่นชัด
และผลประกอบการคาดว่ามีแนวโน้มจะทำจุดสูงสุดใหม่ .. !!
เราต้องเข้าใจก่อนว่า SPA ถือเป็นอีกบริษัทที่ได้รับผลกระทบหนักจากวิกฤตโควิด ซึ่งถ้าเราดูจากผลประกอบการ
ปี 2562 บริษัทมีกำไรสุทธิ 245 ล้านบาท
แต่พอเข้าสู่วิกฤตโควิดในปี 2563 พลิกกลับมาขาดทุน 209 ล้านบาท
และขาดทุนอีกครั้งในปี 2564 มากถึง 286 ล้านบาท
ก่อนที่จะเริ่มฟื้นตัวได้ในปี 2565 โดยมีขาดทุนอีกราวๆ 88 ล้านบาท ทำให้นักลงทุนคาดว่า SPA น่าจะฟื้นตัวอย่างแน่นอนเมื่อวิกฤตโควิดผ่านพ้นไป
ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เมื่อเราดูจากผลประกอบการ 9 เดือน ในปี 2566 ที่บริษัทมีกำไร 192 ล้านบาท
และบทวิเคราะห์มีมุมมองว่า 4Q66 ผลประกอบการของ SPA จะทำจุดสูงสุดใหม่
และจะมีโมเม้นตัมส่งต่อไปยัง 1Q67 ให้ทำจุดสูงสุดใหม่ตามไปด้วย
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เคจีไอ เชื่อว่า SPA จะประกอบกาศกำไร 4Q66 อยู่ที่ 89 ล้านบาท +554 YoY และ +10% QoQ
จากแรงหนุนของการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ การขยายสาขาและการมี Economy of Scale ที่เพิ่มมากขึ้น
ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้น อยู่ที่ 32.5%
รวมถึง SG&A จะลดลง และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยก็ลดลงราวๆ 4% หรือคิดเป็นตัวเงินประมาณ 10 ล้านบาท
ซึ่งข้อดีของ SPA คือ กระแสเงินสดดี ทำให้บริษัทสามารถนำกระแสเงินสดจากการดำเนินงานมาชำระหนี้บางส่วนได้
- สรุปประเด็น SPA ทำอย่างไรให้รายได้โต ท่ามกลางเศรษฐกิจไทยที่ผันผวน
- สรุปไทม์ไลน์ หุ้น JKN เกิดอะไรขึ้น สิ่งที่นักลงทุนอยากรู้ตอนนี้ คืออะไร ?
- สรุปหุ้น ADVICE ประเด็นการเติบโต อยู่ที่ตรงไหน ?
ยิ่งไปกว่านั้น ใน 1Q67 ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าการท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัว โดยเฉพาะเทศกาลตรุษจีนปีนี้
SPA จะถือเป็นหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและสายบริการที่ได้รับอานิสงค์จากนักท่องเที่ยวจีนอย่างมาก
รวมถึงการเปิดสาขาเพิ่มอีก 4-5 สาขา จะเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนการเติบโตในปี 2567
ฝ่ายวิจัยเคจีไอ มองว่า SPA เป็นหุ้นที่กำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากวิกฤตโควิด
ยิ่งไปกว่านั้น เราจะเห็นการจ่ายปันผลอีกครั้งหลังจากที่มีการจ่ายครั้งล่าสุด คือ ปลายปี 2563
และหยุดจ่ายเพราะบริษัทขาดทุนจากเหตุการณ์โควิด
ยิ่งไปกว่านั้น ฝ่ายวิจัยเชื่อว่า SPA มีศักยภาพเพียงพอที่จะย้ายจากตลาด MAI ไปยังตลาด SET ในปีนี้
ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับกลุ่มนักลงทุนสถาบันมากขึ้น และยังส่งผลเชิงบวกต่อราคาหุ้น SPA อีกด้วย ...
โดยสรุป ปัจจัยบวกของหุ้น SPA มีทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก
ปัจจัยภายใน คือ ความแข็งแกร่งของธุรกิจ และได้รับอานิสงค์จากการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นของประเทศไทย
การขยายสาขา การมี Economy of Scale ทำให้ผลประกอบการของบริษัทดูดีขึ้นตั้งแต่ 4Q66 ต่อเนื่องไปยัง 1Q67
และปัจจัยภายนอก คือ การย้ายจากตลาด MAI ไปยังตลาด SET ในปี 2567
ทำให้นักลงทุนสถาบันเริ่มหันมาให้ความสนใจในหุ้น SPA มากขึ้นนั่นเอง ...
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เคจีไอ