ช่วง 1-2 วันมานี้ เรามักจะได้ยินข่าวเรื่องของ "กลุ่มฮูตี" โจมตีเรือสินค้า
และเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น
ทำให้นักลงทุนหลายคนเกิดข้อสงสัยว่า อะไรคือกลุ่มฮูตี และเรื่องราวเป็นมาอย่างไร
วันนี้จะมาเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่ายๆ แบบนี้ครับ
อะไรคือกลุ่ม "ฮูตี" ?
เชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่ ได้ยินแล้วอาจจะสงสัยว่า อะไรคือกลุ่มฮูตี
จริงๆแล้ว กลุ่มฮูตี มีมานานมากแล้ว กว่า 30 ปีในประเทศเยเมนที่เป็นมุสลิมนิกายซีอะห์
ได้ก่อตั้งกลุ่มองค์กรขึ้นมา ชื่อว่า "อันซารัลเลาะห์" หรือผู้ศรัทธาในพระเจ้า
กลุ่มจัดตั้งขึ้นมาเพื่อรณรงค์ให้เด็กและเยาวชนในนิกายซีอะห์ เกิดหวงแหนประวัติศาสตร์ทางการเมือง วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณี
เนื่องจากว่า เยเมน ตอนนั้นถูกปกครองโดยผู้นำที่เป็นมุสลิมนิกายซุนนีย์ ที่กดขี่ชาวซีอะห์ ค่อนข้างมาก และมองว่ากลุ่มเป็นภัยคุกคามของรัฐบาล
ในตอนนั้นผู้นำของกลุ่ม มีชื่อว่า ฮุสเซน อัล-ฮูตี
ทางรัฐบาลจึงเรียกกลุ่มนี้สั้นๆว่า "กบฏฮูตี"
ในตอนแรก กลุ่มฮูตี เป็นกลุ่มเยาวชนรักชาติและภูมิใจในความเป็นนิกายซีอะห์ ก่อนที่จะมาเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยไม่นิยมความรุนแรง
แต่เนื่องจากว่ารัฐบาลใช้อาวุธในการเข้าปราบปราม ทำให้ทางกลุ่มฮูตีต้องตอบโต้โดยการใช้อาวุธเข้าสู่ จนมาถึงปัจจุบัน
คำถาม คือ เกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดีๆกลุ่มฮูตีถึงเข้ามาอยู่ในหน้าสื่อ สร้างความผันผวนให้กับราคาน้ำมัน ?
อย่างที่เรารู้กันว่า ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮามาส ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก
และกลุ่มฮูตีเอง ก็สนับสนุนการกระทำของกลุ่มฮามาส ด้วยเช่นกัน
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา กบฏฮูตีในเยเมนส่งโดรนติดอาวุธโจมตีเรือสินค้ามากกว่า 2 ลำที่แล่นผ่าน "ทะเลแดง"
นับเป็นการโจมตีเรือบรรทุกสินค้าครั้งล่าสุด ที่กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการขนส่งสินค้าทั่วโลก
จนทำให้บริษัทเรือสินค้าหลายแห่งประกาศเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือ
โดยเรือ 2 ลำที่กล่าวมา เป็นเรือสินค้าสัญชาตินอร์เวย์ 1 ลำ และสัญชาติปานามา อีก 1 ลำ
ไม่เพียงแค่นั้น กลุ่มผู้นำกบฏฮุตี ได้ส่งสัญญาณว่า จะโจมตีเรือบรรทุกสินค้าที่แล่นผ่านทะเลแดง
และมีเป้าหมายโจมตีเรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลที่กำลังโจมตีฉนวนกาซาอย่างหนัก
เพราะมองว่า ชาวอิสราเอล เป็นสาเหตุที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์ เสียชีวิตแล้วกว่า 1.8 หมื่นคน
ทะเลแดงคือเส้นทางการค้าทางทะเลราว 12% ของโลก
และมีปริมาณการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์สินค้าราว 30% ของทั้งโลก คิดเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในแต่ละปี
โดยขนส่งสินค้าทุกประเภทตั้งแต่สินค้ายุทธศาสตร์อย่างน้ำมันและก๊าซธรรมชาติไปจนถึงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และของใช้ในชีวิตประจำวัน
เส้นทางนี้ถือเป็นเส้นทางการค้าหลักระหว่าง "เอเชีย-ยุโรป"
จากมหาสมุทรอินเดียไปทางตะวันตก ขึ้นทะเลแดงโดยผ่านช่องแคบ .บับเอลมันเดบ ที่อยู่ระหว่างประเทศจีบูติและเยเมน เพื่อเชื่อมต่อขึ้นไปยัง "คลองสุเอซ" ในประเทศอียิปต์
จากนั้นจึงออกสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปยังจุดหมายปลายทางในยุโรปต่อไป
โดยสำหรับยุโรปแล้วทะเลแดงยังถือเป็นเส้นทางหลักในการขนส่ง "พลังงาน" มาจากตะวันออกกลาง โดยผ่าน "ช่องแคบฮอร์มุซ" อีกด้วย
และเมื่อเราพูดถึงพลังงาน ก็จะหนีไม่พ้นเรื่องของ "ราคาน้ำมัน" ...
- สรุปประเด็นอิสราเอล-ฮามาส กระทบการตลาดหุ้นมากแค่ไหน ?
- จะเกิดอะไรขึ้น ? ถ้าอิสราเอล - ฮามาส ยังขัดแย้งต่อไปเรื่อยๆ
- "ทองคำ" สินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง ควรมองอย่างไรในปี 2567
การสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดค้าน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยวานนี้ ดีดตัวขึ้น +1% มาอยู่ที่ 74 เหรียญต่อบาร์เรล
และถ้าเราดู 7 วันย้อนหลัง พบว่าราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมาแล้วกว่า 8% เข้าไปแล้ว
สื่อต่างชาติมองว่า ราคาน้ำมันโลกจะยังปรับตัวเพิ่มขึ้น ในระยะถัดไปได้อีก
คำถาม คือ ทำไมถึงส่งผลต่อราคาน้ำมัน ?
สาเหตุเป็นเพราะว่า การโจมตีเรือ ทำให้เกิดปัญหาทางด้าน Supply น้ำมัน
ถ้าการขนส่งทางเรือ ไม่แล่นผ่านทะเลแดง อาจจะต้องใช้เวลาเพิ่มอีกราวๆ 10 วัน ในการอ้อมไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ ผ่านแหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) ไปยังไต้หวัน
หรือคิดเป็นระยะทางกว่า 6.48 พันกิโลเมตร
พูดง่ายๆ คือ ทำให้ต้นทุนการขนส่งสูงขึ้นมาก ราคาน้ำมันก็จะแพงขึ้น และปริมาณ Supply ก็หายไป
ตอนนี้ หลายบริษัทขนส่งทางเรือ ได้ยกเลิกการใช้เส้นทางเดินผ่านทะเลแดงเป็นการชั่วคราว และมองหาเส้นทางเดินเรือใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย
สุดท้าย ดูเหมือนว่าความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล - ฮามาส จะยังไม่จบ
ก็มีกลุ่มฮูตีเข้ามาเกี่ยวข้อง ดูเหมือนความขัดแย้งจะยืดเยื้อและบานปลาย
จนล่าสุด สหรัฐฯได้จัดตั้งพันธมิตรนานาชาติ พร้อมตอบโต้กบฏฮูตี แล้ว
------------------------------------------------------------------------------
Reference
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2748906
https://www.sscthailand.org/uploads_ssc/ฉบับที่ 13-58 จุดกำเนิดของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน.pdf
https://www.asiaplus.co.th/asps/research_file.php?id=72705&file=1
https://mgronline.com/around/detail/9660000113437