เวลาเราพูดถึงเรื่องค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้น
เชื่อว่านักลงทุนกว่า 90% จะมองภาพเป็นลบ เพราะถือเป็นต้นทุนขององค์กรที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น
คำถาม คือ จะมีบริษัทไหนบ้างที่จะได้ประโยชน์จากค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มสูงขึ้น 
คำตอบ น่าจะเป็นหุ้น PRTR
PRTR หรือ บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีความน่าสนใจ ที่เรียกว่า Total HR Solutions หรือการมุ่งเน้นบริการด้านทรัพยากรบุคคลครบวงจร ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ประกอบไปด้วย 4 กลุ่มธุรกิจ + 1 กลุ่มธุรกิจบริการ ประกอบไปด้วย 
1. HR Outsourcing Services 
2. Recruitment Services 
3. Job Platform ในชื่อเว็บไซด์ www.nexmove.io
4. Integrated Learning Services 
5. Human Capital Management Program

อ่านมาถึงตรงนี้เราอาจจะรู้สึกสงสัยว่า PRTR จะได้รับประโยชน์จากค่าแรงที่เพิ่มขึ้นได้อย่างไร ? 
สาเหตุเป็นเพราะ บริษัทมีกลยุทธ์ที่เรียกว่า Cost Plus คือ บวกอัตรากำไรจากอัตราค่าจ้าง 
พูดง่ายๆคือ เมื่อพนักงานมีเงินเดือนที่สูงขึ้น บริษัทจะมีโอกาสได้ส่วนแบ่งที่มากขึ้นตามไปด้วย

• รู้จัก PRTR บริหารทรัพยากรบุคคลแบบครบวงจร 
• เมื่อไรหุ้นไทยจะกลับมาเป็น "ขาขึ้น" ? 
• กรณีศึกษา LPN อดีตเจ้าตลาดคอนโด แต่ทำไมราคาหุ้น -70% 

แต่นอกจากจะได้ประโยชน์จากค่าแรงขั้นต่ำอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ
คำถาม คือ แล้วต่อจากนี้ PRTR จะเติบโตในด้านไหนต่ไปได้อีกบ้าง
บทวิเคราะห์หลักทรัพยหยวนต้า วิเคราะห์ว่า PRTR จะเติบโตจาก 3 ส่วนหลักด้วยกัน คือ

1. การเติบโตจากธุรกิจหลัก (Organic Growth)
โดยฝ่ายวิจัยมองว่า PRTR จะฟื้นตัวหลังโควิดอย่างชัดเจน การจ้างงานที่เพิ่มขึ้น และฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ คือ กลุ่มไอที และกลุ่มค้าปลีก

2. การลงทุนในธุรกิจใหม่
เช่น Blacksmith ซึ่งเป็นธุรกิจประเภท Integrated Learning Services หรือฝึกอบรมออนไลน์ 
และ Nexmove บริการแพลตฟอร์มหางานออนไลน์ที่คาดว่าจะเติบโตราวๆ 20% ต่อปี 
รวมถึงธุรกิจซอฟแวร์ด้านบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล PINNO จะเติบโตราวๆ 30% ต่อปี

3. การหาดีล M&A 
PRTR กำลังมองหาดีลซื้อกิจการเพื่อให้เกิดการ Synergy ระหว่างธุรกิจ 
โดยบริษัทเปิดเผยว่าสนใจดีลมีขนาดรายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้านักลงทุนติดตาม PRTR จะพบว่าสถานะทางการเงินของบริษัทค่อนข้างแข็งแกร่ง
ตั้งแต่ได้เงินระดมทุนไป ทำให้คืนหนี้สินหมดแล้ว และมีเงินทุนหมุนเวียน (Working Capital) ที่พร้อมสำหรับการขยายธุรกิจ หรือการหาดีล M&A ในอนาคต

บทวิเคราะห์หลักทรัพยหยวนต้า วิเคราะห์ว่า ในครึ่งหลังของปี 2566 PRTR มีการเติบโตที่น่าสนใจ และเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจประเภท Outsource และ Recruitment หนุนประสิทธิภาพการทำกำไรให้ดีขึ้น
คาดว่า ปี 2566 บริษัทน่าจะมีกำไรอยู่ราวๆ 223 ล้านบาท เติบโต 10% YoY

อนึ่ง หุ้น PRTR ปรับตัวลงไปแล้วกว่า -22% นับจากราคาที่เข้ามาซื้อขายวันแรก

------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพยหยวนต้า

สรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน  : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ผลประกอบการสำคัญ  : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย