#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน
#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

เป็นไปได้ ? SINO หุ้นน้องใหม่ IPO ที่ขายหุ้นในราคา P/E 6.9 เท่า

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
3,744 views

เวลาที่เราได้ยินว่ามีหุ้นใหม่กำลังจะเข้าตลาด
นักลงทุนมักจะได้ยินว่า ราคาเสนอขาย มักจะมี P/E ที่อยู่ในระดับสูงมากเฉลี่ย 20 เท่าเป็นอย่างน้อย
สาเหตุเป็นเพราะว่า เรามักจะมองถึงการเติบโตในอนาคตที่มีอยู่มากหลังผ่านการระดมทุนไปแล้ว
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ จะเสนอขายในราคาที่ค่อนข้างสูง

 

แต่คงไม่ใช่สำหรับหุ้นน้องใหม่อย่าง "SINO" หรือ บริษัท ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ที่กำลังจะเป็นหุ้นน้องใหม่ IPO เข้าตลาด ในวันที่ 20 กันยายน ที่จะถึงนี้
ด้วยราคาเสนอขายหุ้นละ 1.4 บาท หรือคิดเป็น P/E อยู่ที่ 6.9 เท่า เท่านั้น 
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น 
และมีสิ่งไหนบ้างที่นักลงทุนต้องรู้เกี่ยวกับหุ้น SINO

 

SINO ทำธุรกิจ ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Freight Forwarder) ทั้งทางทะเล (Sea Freight) ทางอากาศ (Air Freight) และการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Transport Operation) เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ที่มีความต้องการบริการขนส่งสินค้าตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางทั่วโลก (End - to - End Global Logistics) 
รวมถึงการให้บริการให้เช่าคลังสินค้า การให้บริการขนส่งทางบก การให้บริการด้านพิธีการศุลกากร และบริการอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพ
... ยิ่งไปกว่านั้น SINO เป็นบริษัทสัญชาติไทยที่มีปริมาณการขนส่งสินค้าทางทะเลเส้นทางไทย-สหรัฐอเมริกา สูงสุดเป็นอันดับ 1 และอยู่ในอันดับ TOP 5 ของโลก จากการจัดอันดับของ Datamyne

 

ปัจจุบัน SINO มีเครือข่ายและพันธมิตรที่เป็นตัวแทนของบริษัทฯ ในกว่า 165 ประเทศ ทั้งบริษัทเดินเรือ สายการบิน และตัวแทนการจัดการขนส่งในประเทศต่าง ๆ ให้บริการขนส่งสินค้าในเส้นทางกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
โดยมีเส้นทางไทย-อเมริกาเหนือ ไทย-เอเชีย และไทย-ยุโรป เป็นตลาดหลัก ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเส้นทางการส่งออกและนำเข้าสินค้าหลักของการค้าโลก ทั้งในรูปแบบการขนส่งแบบเต็มตู้ (Full Container Load: FCL) และแบบไม่เต็มตู้ (Less Than Container Load: LCL)
โดยเฉพาะโซนอเมริกาเหนือ ซึ่งบริษัทฯ ได้รับ OTI License (Ocean Transport Intermediary) หรือใบอนุญาตในการจัดส่งสินค้า จาก Federal Maritime Commission (FMC) หน่วยงานที่ดูแลการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา และได้วางหลักประกัน FMC Bond ซึ่งเป็นข้อกำหนดของผู้ให้บริการที่จะขนส่งสินค้าทางทะเลไปยังสหรัฐอเมริกา ทำให้บริษัทฯ สามารถทำสัญญากับพันธมิตรสายเดินเรือ ในการขนส่งสินค้าไปยังกลุ่มประเทศโซนดังกล่าวได้ด้วยตนเอง

 

ขณะเดียวกัน ยังเข้าร่วมเป็นสมาชิกของเครือข่ายเกี่ยวกับการขนส่งทางทะเล ทั้ง PPL Network, WCA Inter Global และ X2 Logistics รวมทั้งเป็นสมาชิกสมาคมต่าง ๆ เช่น สมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (TIFFA) ส่งผลให้ SINO สามารถรับจัดการขนส่งสินค้าได้ครอบคลุมทั่วโลก และมีข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าคู่แข่งหลายราย
อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงการมีพันธมิตรทางธุรกิจ แต่การรับจัดการขนส่งนั้น ต้องอาศัยความเข้าใจและความชำนาญเป็นอย่างมาก
ซึ่งด้วยประสบการณ์ของทีมผู้บริหารที่อยู่ในวงการโลจิสติกส์มากว่า 25 ปี ทำให้เข้าใจภาพรวมและรายละเอียดในทุกกระบวนการของห่วงโซ่อุปทานการขนส่ง และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ SINO ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดีตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

 

ผลประกอบการของบริษัทที่ผ่านมา
ปี 2563 บริษัทมีรายได้ 833.57 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 23.35 ล้านบาท
ปี 2564 บรฺษัทมีรายได้ 4.68 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 319.03 ล้านบาท
ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 5.91 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 691.24 ล้านบาท
ปี 2566 ผลประกอบการ 6 เดือน บริษัทมีรายได้ 830.34 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 45.97 ล้านบาท
โดยมีโครงสร้างรายได้แบบคร่าวๆ เป็นแบบนี้
1. บริการ Sea Freight สัดส่วนรายได้ 90%
2. บริการ Air Freight สัดส่วนรายได้ 3%
3. บริการให้เช่าคลังสินค้า สัดส่วนรายได้ 2%
4. บริการสนับสนุนงานบริการโลจิสติกส์ สัดส่วนรายได้ 5%

 

บริษัทคาดว่าน่าจะได้เงินระดมทุนไป 314.6 ล้านบาท และจะใช้เงินไปกับ 3 กลุ่มหลักด้วยกันคือ
1. ขยายพื้นที่รับฝากตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ 50 ล้านบาท
2. ลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง 150 ล้านบาท
3. นำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนบริษัท 114.62 ล้านบาท

ประเด็นสำคัญ คือ การเสนอขายที่ราคา 1.4 บาท ซึ่งคิดเป็น P/E ที่ 6.9 เท่า ทำได้อย่างไร 
จากข้อมูล Filling รายงานว่า การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัทที่เสนอขายในครั้งนี้ พิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นของบริษัทฯ (Price to Earnings Ratio : P/E Ratio) 
โดยที่ราคา 1.4 บาท ซึ่งคิดเป็น P/E ที่ 6.9 เท่า คำนวณจากผลประกอบการในอดีต 4 ไตรมาสย้อนหลัง 
โดยที่ยังมิได้พิจารณาถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

 

และยังได้เปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมที่ใกล้เคียงกัน 3 บริษัท คือ 
1. หุ้น WICE หรือ บมจ. ไวส์ โลจิสติกส์ ... มี P/E ที่ 12.71 เท่า
2. หุ้น LEO หรือ ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ ... มี P/E ที่ 9.81 เท่า 
3. หุ้น SONIC หรือ บมจ. โซนิค อินเตอร์เฟรท (SONIC) ... มี P/E ที่ 9.81 เท่า 6.14 เท่า
ดังนั้น การกำหนดราคา IPO ถือเป็นราคาที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรมการเดินเรือที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และให้บริการแบบครบวงจร พรอ้มเติบโตในทุกมิติ
ประกอบกับภาวะอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่กำลังกลับมาสดใสในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ทั้งค่าระวางเรือที่ขยับตัวสูงขึ้น รวมทั้งเป็นช่วง High Season ของธุรกิจส่งออก

 

SINO ถือเป็นหุ้นน้องใหม่ IPO ที่นักลงทุนน่าจับตาเป็นอย่างมาก
ทั้งการเติบโต ความใหญ่ และราคา IPO ที่ตามตำราแล้วต้องยอมรับว่าไม่แพงเลย
จะเป็นอย่างไร รอติดตามพร้อมกันในวันที่ 20 กันยายน ที่จะถึงนี้ครับ ...

------------------------------------------------------------------------------
Reference
สำนักข่าวอินโฟเควสท์

ลงทุนแมน

ข้อมูล Filling : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง