เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก
สิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจมากที่สุด น่าจะเป็นเรื่องของการประกาศลดค่าไฟ และลดค่าน้ำมัน
โดย ลดค่าไฟฟ้าจาก 4.45 บาท มาเป็น 4.10 บาท (เริ่มกันยายน จนถึงสิ้นปี)
และลดราคาน้ำมันดีเซลให้ต่ำกว่า 30 บาท (เริ่ม 20 กันยายน จนถึงสิ้นปี)
คำถามคือ การลดค่าไฟ ลดค่าน้ำมัน จะกระทบกับหุ้นโรงกลั่นมากแค่ไหน ?
อยากจะเล่าให้ฟังสั้นๆ แบบนี้ครับ
ในธุรกิจโรงกลั่น พูดสั้นๆคือ ไม่กระทบเลย สาเหตุเป็นเพราะว่า
การปรับลดเป็นการผ่านการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต ซึ่งมีการเก็บน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 5.99 บาทต่อลิตร
ดังนั้น ภาครัฐจะใช้ภาษีสรรพสามิตเป็นกลไกลในการช่วยให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตรได้
โดยไม่กระทบต่อกลุ่มโรงกลั่น หรือผู้ประกอบการค้าปลีกน้ำมันแต่อย่างใด
แต่ผลกระทบ จะตกอยู่กับการจัดเก็บภาษีของภาครัฐลดลงเท่านั้น
- รู้จัก SABUY จากตู้เติมเงิน สู่ก้าวใหม่ที่มากกว่า FinTech
- Tech War กำลังกดดันหุ้นทั่วโลก มองหาโอกาสในความเสี่ยง ?
- วิเคราะห์หุ้นกลุ่มสายการบิน "แบบสรุป"
ในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้า น่าจะแบ่งออกเป็น 2 วิธีด้วยกันคือ
1. การช่วยเหลือประชาชนบางกลุ่มที่มีความเปราะบาง คือใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หรือ 500 หน่วยต่อเดือน
จะไม่กระทบต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า
2. ภาครัฐยืดการชำระหนี้ให้แก่ กฟผ. จะส่งผลต่ออัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มโรงไฟฟ้าที่เป็น SSP ที่มีสัดส่วนขายไฟให้แก่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมลดน้อยลง เช่น GPSC BGRIM และ GULF
โดยสรุปแล้ว ในภาพรวมอาจจะไม่ได้กระทบมาก ทั้งเรื่องของกลุ่มโรงกลั่นและโรงไฟฟ้าที่กระทบบ้างเล็กน้อย
แต่เราต้องไม่ลืมว่านโยบายส่วนใหญ่ คือ เน้นการช่วยเหลือภาคประชาชน ลดค่าครองชีพเป็นหลัก
และหลังจากนี้ นักลงทุนจะเริ่มเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้ช่วงที่เหลือของปีน่าจะเติบโตต่อไปได้
------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส