กระแสหุ้นจีนในระยะนี้ ดูไม่น่าสนใจเมื่อเทียบกับเมื่อหลายปีก่อน 
สาเหตุหนึ่งมาจากนโยบายที่คุมเข้มของทางรัฐบาลจีน ความเชื่อในเรื่องของ Common Prosperity หรือเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน คอยกดดันความเชื่อมั่นนักลงทุนตลอดเวลา

ในปี 2566 ตลาดหุ้นทางฝั่งจีนผลตอบแทนไม่ดีเท่าไรนัก
ดัชนี Shanghai Composite Index ปรับตัวลงไปแล้วกว่า 6% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาฃ
ดัชนี Hang Seng Index ปรับตัวลงเกือบ 10% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
สาเหตุเป็นเพราะ ตัวเลขทางเศรษฐกิจจีนที่ออกมาต่ำกว่าคาด วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในจีน และความคาดหวังว่ารัฐบาลจีนจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้มข้น ปรากฏว่าไม่มี

คำถาม คือ ณ เวลานี้หุ้นจีนน่าสนใจแล้วหรือยัง ? 
คำตอบ คือ มีความน่าสนใจ จาก 3 เหตุผลด้วยกัน คือ 
1.  ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจีนเดือนสิงหาคม ปรับตัวสูงขึ้น
ผลสำรวจจาก Bank Of America พบว่า ผู้บริโภคมีแผนจะใช้จ่ายเพิ่มขึ้นใน 6 เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะสินค้าราคาแพง และภาคการบริการ

2. ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและอเมริกา มีแนวโน้มดีขึ้น 
เมื่อไม่นานมานี้ อเมริกา ได้ถอนบริษัทจีน 27 แห่งออกจาก Black Lists หลังตรวจสอบแล้วว่าบริษัทเหล่านี้มีอยู่จริง ถูกต้องตามกฏหมาย 
ขณะที่สัปดาห์หน้า ทางการจีนและทางการอเมริกา จะมีการประชุมเรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและเรื่องของการกีดกันทางการค้า

• Richcession ภาวะถดถอยของคนรวย เมื่อคนรวยกำลังได้รับผลกระทบหนัก
• ทำไมวอลสตรีทถึงกลับมาสนใจหุ้นจีนอีกครั้ง
• ประเทศจีนกำลังมุ่งสู่นโยบาย Deep Tech
   

3. การสร้างสกุลเงินใหม่ของกลุ่ม BRICS 
โดยจุดประสงค์ คือ ลดบทบาทของสกุลเงินดอลลาร์
และผลักดันระบบ Payment System ให้สกุลเงินหยวนมีความสำคัญมากขึ้น
เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลจีนได้เชิญอีกหลายประเทศเข้าร่วมกลุ่ม เช่น ซาอุดิอาระเบีย อิหร่าน อียิปต์ อาร์เจนติน่า เอธิโอเปีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อขยายอิทธิพลร่วมกัน

จากสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด เป็น Sentiment เชิงบวก
และเป็นสิ่งที่นักลงทุนยังไม่ได้ให้มูลค่าเท่าไรนัก จากการปรับตัวที่ลดลงของ 2 ดัชนีหลักในตลาดหุ้นจีน 
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส มองว่า ตลาดหุ้นจีนมีความน่าสนใจ
และถ้าเรามองกลับมาที่ตลาดหุ้นไทย ธีม China Play กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง

ถือว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจมาก ตลาดหุ้นจีนมองเป็นโอกาส
รวมถึงอานิสงค์ จะส่งมายังตลาดหุ้นไทยให้น่าสนใจเพิ่มขึ้นอีกด้วย ...

------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส