#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน
#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

ใครคือนายกรัฐมนตรีของไทย ? ความกังวลของตลาดหุ้นไทยที่ยังไม่ชัดเจน

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
420 views

ต้องยอมรับว่า SET Index บอบช้ำมามาก ตั้งแต่ประเด็นเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ย ของ กนง. ปัญหา Recession ปัญหา Debt Celling ก่อนหน้านี้ 
และที่สำคัญที่สุด คือ ปัญหาของบริษัทจดทะเบียนไทยที่มีการปลอมแปลงงบการเงินสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
รวมถึงหุ้นตัวใดตัวหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อ SET Index มากเกินไป .. 
ทำให้ต้นปีที่ผ่านมา SET Index ปรับตัวลงไปแล้ว -11.3% YTD 
และนักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยออกไปแล้วกว่า 1.09 แสนล้านบาทตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

 

คำถาม คือ ณ เวลานี้สิ่งที่ทำให้นักลงทุนกังวลมากทีสุด คือปัญหาอะไร ? 
คำตอบ คือ ปัญหาการเมืองโดยเฉพาะหลังผ่านพ้นการเลือกตั้งเข้าสู่เดือนที่ 2 แล้ว คนไทยยังไม่ทราบว่ารัฐบาลเป็นใคร 
และเรามีนายกรัฐมนตรีชื่ออะไร ?

 

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่าความหวังในการจัดตั้งรัฐบาลน่าจะอยู่ที่ความร่วมมือระหว่างพรรคก้าวไกล - เพื่อไทย
ทั้งสองน่าจะคุยรายละเอียดลงตัว และจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันได้
แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุด คือ การเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี สาเหตุเป็นเพราะว่าพรรคก้าวไกลมีอุปสรรค 3 ข้อด้วยกัน คือ 
1. การแก้ไขกฏหมายบางอย่างที่สังคมบางส่วนไม่เห็นด้วย
2. คุณสมบัตินายก เรื่องของสื่อ ITV 
ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และน่าจะมีการชี้แจงเร็วๆนี้
3. เสียงสนับสนุนจาก สว. อาจไม่เพียงพอในการจัดตั้งรัฐบาล
โดยเฉพาะประเด็น ข้อ 3 
เมื่อไม่นานมานี้ หนึ่งใน สว. ได้ออกมาเปิดเผยว่า สว.ส่วนใหญ่ไม่สนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมาตรี
เท่ากับว่ามีแนวโน้มที่วันเลือกโหวตนายก พรรคก้าวไกลอาจจะไม่ได้รับเสียงสนับสนุนเกินกว่าครึ่งจาก 750 เสียง

 


อย่างไรก็ตาม บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส มองว่า โซนนี้อยู่ในระดับที่น่าซื้อสะสม จากเหตุผล 2 ข้อด้วยกัน คือ 
1. มีแนวโน้มว่า กนง. อาจจะคงดอกเบี้ยในครั้งหน้า
2. Market Cap. ของ SET Index ต่ำกว่า Nominal GDP 
ซึ่งประเด็นข้อที่สอง ถือว่าสำคัญมาก เพราะว่า 
จากสถิติที่ผ่านมา Market Cap ของหุ้นไทย มักจะสูงกว่า Nominal GDP  หรือถ้าช่วงใดอยู่ต่ำกว่า ระยะถัดไปหุ้นก็มักจะปรับตัวขึ้นได้เสมอ

 

ล่าสุด Nominal GDP  อยู่ที่ 18 ล้านล้านบาท
ในขณะที่ Market Cap. ของหุ้นไทยอยู่ราวๆ 17.98 ล้านล้านบาท 
เทียบเป็นสัดส่วนจะอยู่ที่ 0.99 เท่า จึงทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ SET Index จะกลับมา Outperform ได้

 

ฝ่ายวิจัยยังฝากข้อสังเกตด้วยว่า ตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบัน สัดส่วนจะอยู่ที่ 1.05 เท่า เป็นค่าเฉลี่ย
พูดง่ายๆ คือ SET Index ไม่ควรต่ำกว่า 1540 จุด นั่นเอง ...

------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง