ดูเหมือนว่าการคลังของพรรคก้าวไกลจะเน้นไปที่การช่วยเหลือกลุ่มคนส่วนใหญ่ และสร้างสวัสดิการขั้นพื้นฐานให้กับสังคมไทย
แน่นอนว่านโยบายดังกล่าว ย่อมไม่เป็นมิตรกับ "กลุ่มทุน - นักลงทุน" มากสักเท่าไรนัก โดยเฉพาะประเด็นเรื่องของการเรียกเก็บภาษี ที่มีการเรียกเก็บกันอย่างเข้มข้น
แต่เราต้องไม่ลืมว่าการเก็บภาษีหนักๆอาจมีผลต่อการลงทุนของภาคธุรกิจ
ยิ่งปัจจุบันดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นมาสูงมาก ย่อมทำให้ทุนมีราคาแพงขึ้น
และการจะไปเรียกเก็บภาษี ยิ่งทำให้การลงทุนลดลง การขึ้นค่าแรง ต้นทุนพลังงานสูง ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น
... จึงเป็นเรื่องที่ทำให้ชวนคิดว่า กลุ่มคนที่จะโดนเรียกเก็บภาษีหนักๆ จะยังมีเงินมากพอให้เก็บภาษีได้อีกหรือไม่ ?
สุดท้าย การเรียกเก็บภาษี VAT จากคนทั่วไป จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
ภาษี VAT หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม ปัจจุบันจะถูกเรียเก็บที่ 7%
คำถาม คือ เป็นไปได้ที่ไทยอาจจะต้องเก็บ VAT เพิ่มเป็น 10% ?
เพราะการเพิ่มเพียง 1% เราจะได้เงินเข้าคลังอีกราวๆ 8 หมื่นล้านบาท
และหากเพิ่ม VAT เป็น 10% ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาในการก้าวเข้าสู่รัฐสวัสดิการขั้นพื้นฐานของพรรคก้าวไกลได้เลย
คำตอบ คือ มีความเป็นไปได้ ...
ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษากลุ่มธุรกิจการเงิน เกียรตินาคินภัทร (KKP) แสดงความคิดเห็นว่า การเก็บภาษีจากภาคธุรกิจในภาวะที่ต้นทุนทุกอย่างแพงเป็นเรื่องยาก
และหากจะแก้ปัญหานี้โดยกระทบกับการลงทุนน้อยที่สุด จะต้องเพิ่ม VAT เป็น 10%
- ศิริกัญญา ตันสกุล ว่าที่ รมว.คลัง กับ 4 ประเด็นที่นักลงทุนต้องรู้
- เราอาจจะเห็นดอกเบี้ยขาขึ้นของไทยถึงจุดสูงสุดแล้ว
- ตลาดหุ้นกับรัฐบาล
1. เกียรตินาคินภัทร ได้รวบรวมข้อมูลธนาคารขนาดใหญ่ของประเทศไทย พบว่าได้หยุดเพิ่มการปล่อยกู้แล้ว ราวๆ -0.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วแสดงให้เห็นว่าแบงก์เริ่มระมัดระวังตัว
ซึ่งเครดิตบูโรก็เตือนว่ามีหนี้ที่เป็นหนี้เสียของรายย่อย 9 แสนล้านบาท
และหนี้ที่ไม่มีเสถียรภาพอีกราวๆ 6 แสนล้านบาท รวมกว่า 1.5 ล้านล้านบาท ...
สะท้อนให้เห็นว่าปัจจัยพื้นฐานทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทำได้ยาก
2. ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่เป็นผู้บริโภครายใหญ่ ส่งสัญญาณฟื้นตัวได้ช้า
3. ความกังวลรัสเซีย ยูเครน อาจจะทำให้ราคาน้ำมันดิบกลับมาแพงได้อีก
4. การส่งออกของไทยยังอ่อนแอ ซึ่งภาคการส่งออกคิดเป็น 58% ของ GDP ถ้าการส่งออกไม่ฟื้น ก็ยากที่เศรษฐกิจไทยภาพรวมจะฟื้นได้เช่นเดียวกัน
5. จากข้อมูลของ FDI บ่งบอกว่า ไทยไม่สามารถดึงเงินทุนจากต่างประเทศได้ดีเท่าประเทศคู่แข่ง
ดร.ศุภวุฒิ ยังเน้นย้ำอีกด้วยว่า
"ตอนนี้จะมีการยื้อแย่งเงินทุนที่เข้ามา แต่ก็ไม่ง่าย เพราะประเทศอื่นก็ต้องการเช่นเดียวกัน และทรัพยากรพื้นฐานของประเทศคู่แข่งก็ดีกว่าเรา เช่น ตลาดเวียดนามใหญ่กว่า แรงงานก็มีมากกว่า เป็นต้น"
อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ เรื่องของการเก็บ VAT ทางพรรคก้าวไกลเน้นย้ำมาตลอดว่าจะไม่มีการเพิ่มภาษี VAT เพราะการเพิ่ม VAT จะเป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชน
ประเด็นนี้เราอาจจะต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดกันต่อไปครับ ...
อนึ่ง ตามความเป็นจริงแล้ว คนไทยควรจะต้องจ่าย VAT ที่ 10%
แต่พอปี 2540 ภาครัฐได้ปรับลด VAT เหลือ 7% เพื่อเป็นการลดค่าครองชีพช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง
และการพิจารณาเรื่อง VAT จะถูกนำมาเป็นประเด็นทุกๆ 2 ปี ว่าจะกลับมาที่ VAT เท่าเดิม คือ 10%
หรือจะลด VAT ให้เหลือ 7% อย่างในปัจจุบัน
การเรียกเก็บ VAT ที่ 7% ถือว่ามีการเก็บ VAT น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกจะอยู่ราวๆ 15.5%
ตัวอย่างเช่น ญี่ปุ่น เก็บ VAT 8%
เกาหลีใต้ เก็บ VAT 10%
จีน เก็บ VAT 17%
นอร์เวย์ เก็บ VAT 25%
ดังนั้น การที่ไทยจะเรียกเก็บ VAT เพิ่มเป็น 10% เป็นเรื่องที่สมควรหรือไม่
คิดว่าเราเองก็น่าจะมีคำตอบในใจกันอยู่แล้วครับ
------------------------------------------------------------------------------
Reference
ฐานเศรษฐกิจ