#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน
#แนวคิดด้านการลงทุน

ทำไมเราถึงไม่ควรกลัวหุ้นตกหลังเลือกตั้ง

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
2,100 views

ตั้งแต่ผลการเลือกตั้งชัดเจน 
ตลาดหุ้นไทยก็ตกมาโดยตลอด เกือบ 40 จุด ภายใน 3 วัน หรือคิดเป็นการลดลงกว่า -2.59%
วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 SET Index -19.97 จุด คิดเป็น -1.28% 
วันที่ 16 พฤษภาคม 2566 SET Index -1.54 จุด คิดเป็น -0.1% 
วันที่ 17 พฤษภาคม 2566 SET Index -17.10 จุด คิดเป็น -1.11% 
ซึ่งส่วนใหญ่ การที่หุ้นไทยลดลงหลักๆจะมาจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติเป็นส่วนใหญ่
วันที่ 15 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 691 ล้านบาท
วันที่ 16 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1.12 พันล้านบาท
วันที่ 17 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4.43 พันล้านบาท
เท่ากับว่าตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสะสมไปแล้วกว่า 7.61 หมื่นล้านบาท

 

ปีนี้ต้องยอมรับว่าเป็นปีที่ค่อนข้างแปลก 
เพราะโดยปกติการเลือกตั้งผ่านพ้นไป หุ้นไทยมักจะตอบรับในเชิงบวก
แต่ครั้งนี้ กลับตอบนรับในเชิงลบ น่าจะมาจากสาเหตุ 2 ข้อด้วยกัน คือ 
1. การจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล ไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะต้องเจอกับ สว. 250 เสียง ที่ดักหน้าอยุ่ก่อนแล้ว
2. นโยบายของพรรคก้าวไกลหลายอย่างเป็น Sentiment เชิงลบต่อบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง
แต่ถ้าเราลองพิจารณาดูดีๆ จะพบว่าการที่หุ้นไทยร่วงลงมาเกือบ 40 จุด ภายใน 3 วัน นักลงทุนไม่ควรกังวลและควรใช้จังหวะนี้ให้เป็นโอกาสมากกว่า ... ทำไมถึงคิดแบบนั้น ?

 

1. กำไรของบริษัทจดทะเบียนไทย 1Q66 ภาพรวมออกมาดี
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส มองว่าภาพรวมของบริษัทจดทะเบียน 1Q66 ออกมาดูดี 
ฝ่ายวิจัย ประเมินว่าภาพรวมน่าจะเติบโตทั้งปี ได้ 12.6% สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

 

2. GDP ไทยยังโต เศรษฐกิจฟื้นตัว ดอกเบี้ยนโยบายไทยยังต่ำกว่าอีกหลายประเทศ
ตัวเลข GDP ไทย 1Q66 ออกมาเติบโต 1.9% QoQ และ +2.7% YoY สูงกว่าที่ตลาดมองเอาไว้ว่าน่าจะโตได้ราวๆ 2.3% YoY โดยมีแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคของประชาชน
พูดง่ายๆ คือ ภาพรวมเศรษฐกิจไทยดูดีขึ้นเรื่อยๆ
... อีกทั้งดอกเบี้ยนโยบายไทยยังต่ำกว่าอีกหลายประเทศ
วันที่ 31 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ ตลาดมองว่า กนง. อาจจะมีการขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% มาอยู่ที่ 2% ทำให้เกิดแรงเทขายในหุ้นไทย แต่ถ้าเรามองในเชิงเปรียบเทียบ ยังถือว่าต่ำกว่าอีกหลายประเทศ

 

 

3. ตลาดหุ้นไทย Underperform หุ้นภูมิภาคเอเชียเป็นเวลานานแล้ว
ถ้าเราไปดูดัชนี MSCI Thailand จะพบว่า "แย่กว่า"  MSCI APAC ex. Japan ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
ด้วยการที่ Underperform น่าจะเป็นตัวดึงดูด FundFlow จากต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น จากเรื่องของความชัดเจนหลังการเลือกตั้ง การเติบโตของเศรษฐกิจที่ไปต่อได้ รวมถึงบริษัทจดทะเบียนที่ดูดีกว่าที่คิดเอาไว้

 

4. การกระตุ้เศรษฐกิจ หลังได้รัฐบาลใหม่
Sentiment เชิงบวกหลังเลือกตั้ง ด้วยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่

สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด คือ Sentiment เชิงบวกของหุ้นไทย
แต่คาดว่า สิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจมากที่สุด คือ การจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล จะมีปัญหาหรือไม่ ?
เพราถ้ามีปัญหา อาจจะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าออกไป ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยภาพรวม

 

แต่ถ้าใครติดตามข่าว จะพบว่าเราจะเริ่มเห็นข่าวว่า ส.ว. และสส. บางพรรคการเมือง เริ่มออกมาสนับสนุนนายกรัฐมนตรีตามเสียงข้างมากของผลการเลือกตั้ง 
มีโอกาสสูงมากที่พรรคก้าวไกลจะได้จัดตั้งรัฐบาล
เมื่อพรรคก้าวไกล ไม่มีอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาล น่าจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อตลาด
หรืออย่างน้อยที่สุด คือ ความผันผวนน้อยลง แรงกดดันทางการเมืองเริ่มน้อยลง รัฐบาลทำหน้าที่บริหารประเทศให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้

 

โดยสรุปแล้ว การที่หุ้นลง นักลงทุนไม่ควรกลัว
และควรมองจังหวะนี้เป็นโอกาส มากกว่าครับ ...

------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กสิกร

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์อินโนเวสท์ เอกซ์

THE STANDARD WEALTH


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง