ถ้าถามว่าหุ้นที่ให้ผลตอบแทนไม่ดีเลยในช่วงที่ผ่านมา คือหุ้นอะไรในพอร์ตของนักลงทุน
เชื่อว่า CPF น่าจะเป็นหุ้นตัวหนึ่งที่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนมาโดยตลอด
... ถ้านักลงทุนถือครองหุ้น 6 เดือน จะให้ผลตอบแทน -6.1%
... ถ้านักลงทุนถือครองหุ้น 1 ปี จะให้ผลตอบแทน -7.2%
... ถ้านักลงทุนถือครองหุ้น 5 ปี จะให้ผลตอบแทน -1.2%
ยิ่งตั้งแต่ต้นปีมานี้ หุ้น CPF ปรับตัวลดลงมาโดยตลอดแม้ว่าจะมีประเด็นข่าวดีเรื่องของการซื้อหุ้นคืน
คำถาม คือ มีปัจจัยอะไรที่นักลงทุนยังคงกังวลกับหุ้น CPF
คำตอบ คือ ผลประกอบการไตรมาส 4 ที่ออกมาอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่นักลงทุนคาดหวังกันเอาไว้ ...
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า แนวโน้มราคาหมูและไก่ในไทยและเวีดยนามปรับลดลง อีกทั้งยังเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจสัตว์น้ำ ทำให้กดดันรายได้และอัตรากำไรให้ลดลง
มองว่าผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2566 น่าจะอยู่ที่ 4.6 พันล้านบาท ลดลง 38% qoq แต่พลิกจากขาดทุน 4.6 พันล้านบาท เมื่อไตรมาส 4 ปี 2564
... ในปี 2566 แนวโน้มกำไรสุทธิของ CPF น่าจะเติบโต 10% จากธุรกิจในต่างประเทศที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวมากขึ้นเรื่อยๆ
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์อินโนเวสท์ เอกซ์ มองว่าไตรมาส 4 ปี 2565 เป็นช่วง Low Season ของบริษัท ทำให้กำไรน่าจะอยู่ระดับ 2.3 พันล้านบาท พลิกจากขาดทุนของปีที่แล้ว
... สำหรับปีนี้ ผลประกอบการจะดีขึ้นในไตรมาส 1 ปี 2566 จากราคาสัตว์บกที่ดีขึ้นทั้งในไทยและจีน
แต่ประเด็นที่น่าสนใจ คือ CPF เทรดในราคา Discount เมื่อดูจากบริษัทลูกไม่ว่าจะเป็น CPALL และ MAKRO ที่ CPF ถือหุ้นอยู่ 34% และ 8.85% ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งมี Discount อยู่ถึง 17% จากมูลค่าการถือครองที่ 29 บาทต่อหุ้น
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า วิเคราะห์ว่าผลประกอบการที่จะออกมา น่าจะมีกำไร 4.47 พันล้านบาท ลดลง 12.9% qoq แต่ฟื้นตัวจากขาดทุนในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากสาเหตุเรื่องของราคาสัตว์ที่ลดลง ปริมาณหมูไก่ล้นตลาด แต่จะได้ส่วนแบ่งกำไรจาก CPALL ราวๆ 2.2 พันล้านบาท
.... สำหรับปีนี้ มีมุมมองเป็นบวก ที่คาดว่าจะเติบโต yoy จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น การเปิดประเทศเต็มรูปแบบ รวมถึงความต้องการจากจีนที่เพิ่มขึ้น และกำไรจากธุรกิจเลี้ยงสัตว์ในจีน
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เคจีไอ มีมุมมองคล้ายกัน คือ ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2565 จะลดลงมาอยู่ที่ 2.79 พันล้านบาท แต่ดีขึ้น yoy จากที่ขาดทุน โดยมีสาเหตุจากราคาเนื้อสัตว์อ่อนตัวลง ยอดขายทรงตัว และเป็นช่วง low season ของธุรกิจสัตว์น้ำ
แต่จะได้แรงหนุนจากธุรกรรมของ MAKRO รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจาก CTI ในประเทศจีน
... สำหรับปี 2565 ยังมีมุมมองเป็นบวกจากการเปิดประเทศ หนุนยอดขายเพิ่มขึ้น อีกทั้ง CPF มีแผนในการเพิ่มกำลังการผลิตฟาร์มหมูในไทย เวียดนาม และจีน จะช่วยใฟ้ผลการดำเนินงานดีขึ้นในระยะยาว
โดยภาพรวมแล้ว สิ่งที่นักลงทุนยังกังวล คือ ผลประกอบการไตรมาส 4 ที่กำลังจะออกเร็วๆนี้น่าจะออกมาไม่ค่อยดี จากราคาหมู-ไก่ที่ลดลง ปริมาณขายทรงตัว และธุรกิจสัตว์น้ำที่เป็น Low Season
แต่ถ้ามองในปีนี้ ถือว่ามีมุมมองเป็นบวก จากการเปิดประเทศทำให้ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น และธุรกิจที่ไปลงทุน
ปัจจุบัน หุ้น CPF เทรดอยู่ในระดับ P/E ที่ 10.6 เท่า, P/BV ที่ 0.78 เท่า และอัตราเงินปันผลประมาณ 2.72%
------------------------------------------------------------------------------
Reference
สรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส