ห้องเม่าปีกเหล็ก

" พี่ี่่ี่่ยุ่น " และ " มหาอํานาจสารขัณฑ์ " ไม่ปรับดอกเบี้ยนโยบาย

โดย ศักดิ์
เผยแพร่ :
64 views

จากการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น ( BOJ ) ระหว่างวันที่ 22 - 23 มกราคม ปี พ.ศ 2562 สรุปผล ดังนี้ คือ :

BOJ Leaves Stimulus Unchanged, Cuts Inflation Outlook Again ( บีโอเจ คงการกระตุ้นไม่เปลี่ยน ตัดมุมมองด้านเงินเฟ้ออีกครั้ง )

Updated on
Central bank lifts growth forecast, sees more downside risks ( ธนาคารกลางญี่ปุ่นยกระดับการเติบโตขึ้น แต่ยังมองความเสี่ยงทางด้านลงก็มีมาก )
Price downgrade excludes likely drops in phone, school costs ( ราคาสินค้าลดลงนอกจากค่าโทรศัพท์และค่าใช้จ่ายทางด้านการศึกษา )

The Bank of Japan left monetary policy unchanged as it cut its inflation outlook once again, underscoring how far away its price target is and how few options the central bank has for drawing closer.

The BOJ maintained its yield curve-control program and asset purchases, it said in a statement Wednesday, a result predicted by all but one of 50 economists surveyed by Bloomberg. The bank lowered its inflation forecast for a fourth consecutive time in its quarterly outlook report.

แปลเป็นไทยว่า "

" ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงมีนโยบายทางด้านการเงินไม่เปลี่ยนแปลง ( 0.1% ) แต่จะตัดเงินเฟ้อลง ( จาก 1.4% เป็น 0.9% ) ยังคงไม่ให้นํ้าหนักทางด้านเป้าหมายทางด้านราคาและมีโอกาสน้อยที่จะใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัว ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงควบคุมอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล และการซื้อสินทรัพย์ ( หมายถึงยังคงการอัดฉีดสภาพคล่องต่อไป )  จากผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นและประกาศเมื่อวันพุธที่ 23 มกราคม ปี พ.ศ 2562 ที่ผ่านมา และจากผลของการทํานายโดยหนึ่งในห้าสิบคนของนักเศรษฐศาสตร์สํานักบลูมเบริก์ ธนาคารญี่ปุ่นปรับลดการคาดการณ์เงินเฟ้อเป็นครั้งที่สี่ในรอบควอเตอร์ "

ข้อคิดเห็นเพิ่มเติมของ " เพื่อนผู้รู้ใจ " มีดังนี้ คือ :

เศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังไม่ดี เพราะ :

" 1) การดําเนินนโยบายทางด้านการเงินการคลังผิดพลาดมาตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปี ค.ศ 1989 โดยรัฐบาลญี่ปุ่นใช้เงินไปอุดหนุนองค์กรและบริษัทๆให้ดําเนินการต่อไปได้ แต่ขาดมีประสิทธิภาพ ทําให้มีบริษัทซอมบี้ฯเต็มบ้านเต็มเมืองญี่ปุ่นไปหมดมาจนถึงปัจจุบัน แล้วมีผลทําให้หนี้สาธารณะของประเทศญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ 253% ของ GDP ซึ่งสูงที่สุดในโลก

2) ชาวญี่ปุ่นไม่จับจ่ายใช้สอย โดนเน้นการประหยัดอดออมเป็นหลัก เศรษฐกิจญี่ปุ่นจึงไม่ดี "

 

ข้อมูลล่าสุดจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศไทย เป็นดังนี้ คือ :

Thai Finance Ministry Says it Doesn't Expect Any More Rate Hikes ( รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทยบอกว่าจะไม่ปรับดอกเบี้ยนโยบายอีกแล้ว )

Tighter monetary policy seen as possible obstacle to growth  ( นโยบายการเงินแบบตึงตัวเป็นอุปสรรคต่อการเติบโต )
Strength of the baht causing concern about impact on exports ( การแข็งค่าของเงินบาทอาจจะมีผลกระทบต่อการส่งออก )

It’s one and done for the Bank of Thailand, as far as the country’s Finance Ministry is concerned.

The head of the department’s Fiscal Policy Office said the central bank is expected to leave its benchmark interest rate unchanged this year, following December’s quarter-point increase to 1.75 percent, the first hike since 2011.

แปลเป็นไทยว่า :

" ซึ่งเป็นส่วนที่กระทรวงการคลังเป็นห่วงเป็นใย หัวหน้าแผนกนโยบายการคลังกล่าวว่าธนาคารกลางของไทยน่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ จากการที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1.75% ในเดือนธันวาคม ปี พ.ศ 2561 ซึ่งเป็นการปรับครั้งแรกในรอบ 7 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ 2554 "

ข้อคิดเห็นเพิ่มเติมของ " เพื่อนผู้รู้ใจ " มีดังนี้ คือ :

เศรษฐกิจของไทยยังไม่ดี เพราะ :

" ประเทศไทยกินบุญเก่ามานานตั้งแต่โครงการอิสเทริน์ซีบอร์ดสมัยอดีตนายกรัฐมนตรีพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ในปี พ.ศ 2524  และการย้ายการลงทุนจากญี่ปุ่นในปี พ.ศ 2529 ทําให้เศรษฐกิจไทยมีแต่ทรงกับทรุด และถ้าจะให้ดีขึ้นก็จะต้องผลักดันโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท และเขตเศรษฐกิจพิเศษอีอีซี ( EEC ) ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว "

หมายเหตุ : ที่มาจาก (  www.bloomberg.com )

 
 

ศักดิ์