หุ้นไทยปิดลบ 7.89 จุด ดอกเบี้ย เงินเฟ้อสหรัฐฯ กดดัน
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 11 ตุลาคม ปิดที่ระดับ 1,562.68 ลดลง 7.89 จุด (-0.50%) มูลค่าการซื้อขาย 51,876.61 ล้านบาท ดัชนีปรับขึ้นทำระดับสูงสุด 1,569.13 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,559.22 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆ ในแดนลบ จากแรงกดดันทิศทางอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อของสหรัฐ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่ากดเงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 38 บาท/ดอลลาร์อีกครั้ง ส่งผลกระทบต่อภาพการลงทุนในระยะสั้น
ขณะเดียวกันสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยเปิดทำการซื้อขายเพียง 3 วัน และในวันที่ 13 ตุลาคม จะมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอปัจจัยดังกล่าว
แนวโน้มวันพรุ่งนี้ (12 ต.ค.) นายวิจิตร คาดการณ์หุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบ แนวรับที่ 1,560 จุด และแนวต้าน 1,580 จุด แนะนำให้ระวังแรงเทขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาว
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด
- CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,081.24 ล้านบาท ปิดที่ 55.00 บาท ลดลง 0.75 บาท
- AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,674.20 ล้านบาท ปิดที่ 71.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
- DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,616.65 ล้านบาท ปิดที่ 666.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
- PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,477.76 ล้านบาท ปิดที่ 170.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
- GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,178.52 ล้านบาท ปิดที่ 48.50 บาท ลดลง 0.50 บาท