คาดหุ้นไทยวันนี้ ยังผันผวน หลังวอลุ่มบาง แนะ 8 หุ้น รับไตรมาส 4/66 เติบโต
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ประเมิน SET แกว่งตัวกรอบ 1,395 - 1,415 จุด แม้ดัชนีจะยังคงได้แรงหนุนจากคาดการณ์ FED จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค. 2567 หลัง GDP ไตรมาส 3/66 สหรัฐขยายตัวต่ํากว่าคาด รวมถึงเม็ดเงิน RMF SSF TESG ในช่วงท้ายปี
อย่างไรก็ตาม Volume ซื้อขายที่ค่อนข้างบางรวมถึง Fund flow ต่างชาติที่ชะลอตัวจะกดดันให้ดัชนีผันผวน จึงแนะนํา Selective buy ต่อไป
โดยกลยุทธ์การลงทุน: Selvectie buy หุ้น GULF GPSC BGRIM TASCO EPG อานิสงส์ต้นทุนพลังงานอ่อนตัวลง รวมทั้ง CRC CPN HMPRO GLOBAL DOHOME COM7 อานิสงส์ E-refund และ WHA AMATA CBG TU ITC AUCT PLANB SABINA แนวโน้มไตรมาส 4/66 เติบโต
ส่วนหุ้นแนะนําวันนี้ KCE (ปิด 56.75 ซื้อ/ เป้าสูงสุด IAA Consensus 65 บาท) ได้ปรับเข้าคํานวณในดัชนี SET50 รอบใหม่ มี Sentiment บวกจากหุ้นในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐท่ีปรับตัวขึ้นรวมถึงหุ้นในกลุ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่สูงขึ้นเป็นบวกต่อ KCE โดยตรงเนื่องจากชิ้นส่วนหลักของ KCE ถูกใช้ในกลุ่มยานยนต์
CBG (ปิด 82.75 ซื้อ/เป้า 93.60 บาท) ได้ Sentiment บวกราคาน้ำตาลร่วงแรงสู่ระดับ 20.2 เซนต่อปอนด์ ลดลง 28% เมื่อเทียบจากจุดสูงสุดที่ระดับ 28 เซนต์ต่อปอนด์ในช่วงเดือน พ.ย. ที่ผ่านมาช่วยลดต้นทุนการผลิตและหนุนมาร์จิ้นเพิ่ม ด้านรายได้และกําไรจะเร่งตัวขึ้นในไตรมาส 4/66 จากการรับรู้รายได้ผลิตขวด และจัดจําหน่ายเบียร์เข้ามาเต็มไตรมาสเป็นไตรมาสแรก
ประเด็นสําคัญวันนนี้ กองทุน ThaiESG ยังไม่ปัง มียอดขาย IPO เพียง 1.2 พันล้านบาท คิดเป็น 12% จากเป้าหมายรวม: จากการรวบรวมข้อมูลการเปิดขาย IPO ของ กองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG Fund ในช่วงวันที่ 8 – 20 ธ.ค. ที่ผ่านมาจํานวน 24 กองทุนมียอดขายรวมเพียง 1.2 พันล้านบาท คิดเป็น 12.2% ของเป้าปีนี้ที่ ภาครัฐตั้งไว้ 1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนหุ้น 899 ล้านบาท พันธบัตร 130 ล้านบาท และกองทุนผสม 189 ล้านบาท
ดาวโจนส์ฟื้นตัวยังคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ยหลัง GDP 3q23 ของสหรัฐ ไม่ได้ร้อนแรงเกินไป:ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 322.35จุด (+0.87) ปิดที่ 37,404 จุด หลังสหรัฐปรับลดตัวเลข GDP ในการประกาศครั้งที่ 3 ลงเหลือขยายตัว 4.9% จาก 5.2% ในประมาณการณ์ครั้งที่ 2 และต่ํากว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 5.2% ปัจจัยนี้เพิ่มความมั่นใจให้กับตลาดว่าเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยตั้งแต่เดือน มี.ค.ปีหน้า
คืนนี้ติดตามตัวเลข PCE Price Index เดือน พ.ย.เพื่อชี้วัดทิศทางเงินเฟ้อและดอกเบี้ยของสหรัฐ: เบื้องต้น Consensus คาด Headline PCE เดือน พ.ย.จะลดลงสู่ระดับ 2.8% จาก 3% ในเดือน ต.ค. และคาด Core PCE จะลดลงสู่ระดับ 3.3% จาก 3.5% ในเดือน ต.ค. (หาก PCE ลดลงต่ํากว่าที่คาด เฟดจะคงดอกเบี้ยระดับสูงเป็นเวลานานกดดัน Sentiment)