จีน-สหรัฐ ปะทะคารม สงครามการค้า สงครามจิตวิทยา
เจ้าหนี้จีน โมโหลูกหนี้อเมริกา ที่เก็บภาษีนำเข้าเยอะ
สงครามการค้า สงครามผลประโยชน์ สงครามเห็นแก่ตัวทั้ง 2 ฝ่าย กระทบการลงทุนทั่วโลก
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง โจมตีนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่า "เป็นการกีดกันทางการค้า สองมาตรฐาน"
รองประธานาธิบดีไมก์ เพนซ์ ชี้ว่า “เงินกู้จีนนั้นไม่โปร่งใส ให้บ่อยเกินไป แถมยังมีพันธะเยอะ และนำไปสู่หนี้สินล้นพ้นตัว”
ก็ไม่เข้าใจจีน จะไปบ่นทำไมว่า อเมริกา เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเยอะ 2.5 แสนล้านดอลลาร์ ในเมื่อตัวเองก็เป็นเจ้าหนี้ อเมริกา มากมาย เป็นเจ้าหนี้ ที่ไม่อยากให้ลูกหนี้ นำเงินมาคืนให้ครบ จบเร็วๆ ต้องการฟันดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ นานๆ
จะอย่างไรก็ตาม สงครามการค้า เป็นเพียง เกมการลงทุนที่ไม่รุนแรง หนักหน่วง มากไปกว่า การที่ ดัชนี Dow Jones และ S&P 500 เป็นขาลงรอบใหญ่ สัญญาณ Confirm เข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 แล้ว
ขณะที่นักลงทุน นักวิเคราะห์ เฝ้าจับตาดูการเจรจาสงครามการค้า แต่มองไม่เห็นระเบิดเวลา ที่มันถูกจุดฉนวนมาตั้งแต่ 4 สัปดาห์ที่แล้ว
อาจมีการดีดกลับ ขยับขึ้น แต่จะไม่สามารถทำ New High เหนือ All Time High ได้อีก มากที่สุด แค่ทำ Double Top ขึ้นไปแตะ All Time High เท่านั้น แต่โอกาสเกิดมีน้อยมากๆ
อีก 2 สัปดาห์ ดัชนี Dow Jones และ S&P 500 จะหลุดแนวรับจิตวิทยาสำคัญ และเป็นแนวรับ ที่มีการดีดตัวขึ้นไปเฉลี่ย 50% ของ All Time High ที่ลงมา หลายสัปดาห์ก่อน มีการเลือกตั้ง จึงทำให้ขยับขึ้นไปได้อีกนิดหน่อยครับ
ส่วนตัวมอง SET Index ฝาแฝดกับ ดัชนี Dow Jones และ S&P 500 การดีดกลับ การย่อ การอ่อนแรง เหมือนกันอย่างกับแกะ
ขอบคุณครับ