คาดหลังเลือกตั้ง “หุ้นไทย” กลับมายืน 1,630 – 1,650 จุด ได้...
พร้อมลุ้น “ต่างชาติ” มั่นใจ “รัฐบาลใหม่” เงินไหลกลับอีกครั้ง !!!

.
Where2put Ur Money: ถือเป็นเรื่องที่สำคัญและประชาชนชาวไทยตื่นตัวกันมาก สำหรับการเลือกตั้งของไทยปี 2566 นอกจากความคึกคักที่คนไทยต้องการออกไปใช้สิทธิเลือกผู้แทนแล้ว ความสนใจที่มีต่อนโยบายของพรรคการเมืองก็เป็นอีกปัจจัยที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะนโยบายด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีผลกับทิศทางเศรษฐกิจ ตลาดเงิน ตลาดทุนของประเทศในอนาคต
.
แน่นอนว่า ประเด็นที่กำลังจับตามองคือ ทิศทางของตลาดหุ้นไทยหลังการเลือกตั้ง จะเป็นอย่างไร ปัจจัย หรือตัวแปรอะไรบ้าง ที่นักลงทุนต้องติดตาม รวมถึงจะเตรียมการลงทุนอย่างไรดี ?
.
“DAOL SEC” ประเมินว่า เรื่องแรกคือ การจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง หากได้รัฐบาลที่มาจากพรรคการเมืองชุดใหม่ จะส่งผลดีต่อบรรยากาศการลงทุน เนื่องจากตลาดมีความคาดหวังเชิงบวกต่อการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ และหลังจากนั้นนักลงทุน (ทั้งในและต่างประเทศ) จะจับตามองว่า การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่หาเสียงไว้จะเกิดขึ้นและเป็นปัจจัยหนุนตลาดรวมถึงกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องเพียงใด แต่ถ้าหากเป็นรัฐบาลชุดเดิม มองว่าตลาดยังเดินหน้าต่อไปได้ แต่ตลาดก็จะจับตาการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน
.
ดังนั้น “DAOL SEC” จึงได้เจาะลึกนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ในด้านเศรษฐกิจและการลงทุน พบว่ามีนโยบายหลัก 3 ด้าน ที่จะมีผลต่อหุ้นกลุ่มต่างๆ ดังนี้
.
1) นโยบายด้านสวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุขและกลุ่มสินเชื่อ เช่น การรักษาพยาบาล ประกันสังคม เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ การพักชำระหนี้ โดยกลุ่มที่ได้ประโยชน์ ได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาล ธนาคาร (จากคุณภาพหนี้ดีขึ้นและสินเชื่อขยายตัว)
.
2) นโยบายสนับสนุนการลงทุนแก่เอกชนและต่างประเทศ ถือเป็นนโยบายที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยธุรกิจที่จะได้ผลบวก คือ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโครงการรถไฟฟ้า
.
3) นโยบายสวัสดิการในรูปแบบการแจกเงินหรือลดค่าครองชีพ เป็นอีกนโยบายที่ได้รับความสนใจอย่างมาก เป็นการเพิ่มกำลังการใช้จ่ายกับประชาชนโดยตรง มองว่าเป็นบวกต่อ หุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภค เป็นต้น แต่นโยบายคงต้องตามในเรื่องการก่อหนี้สาธารณะของประเทศด้วยเช่นกัน
.
“นอกจากนี้ด้วยความน่าสนใจของ ‘ตลาดหุ้นไทย’ การเลือกตั้งครั้งนี้ทำให้นักลงทุนต่างชาติจับตาเช่นกันประเมินว่าหลังเลือกตั้ง หากการเมืองเดินหน้าไปได้ไม่เกิดผลกระทบด้านเสถียรภาพการบริหารงานของรัฐบาล คาดว่าจะเห็นแรงซื้อ (Fund flow) จากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาได้”
.
โดยภาพรวมดังกล่าว “DAOL SEC” คาดการณ์ว่าหลังการเลือกตั้งดัชนี SET Index อาจขึ้นไปอยู่ระดับ 1,630-1,650 จุด ได้
.
อย่างไรก็ตาม สำหรับการลงทุน นอกจากประเด็นเรื่องการเมืองไทย ปัจจัยต่างประเทศยังเป็นตัวแปรที่มีผลต่อการพิจารณาตัดสินใจลงทุนด้วย การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ปัญหาเงินเฟ้อ ปัญหาความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ การส่งออกที่ชะลอตัว ราคาพลังงานที่ปรับตัวลง ยังเป็นปัจจัยที่กดดันตลาด ดังนั้นการลงทุนในหุ้นกลุ่มที่โดนปัจจัยลบจากต่างประเทศดังกล่าว ยังต้องระมัดระวัง ควรเน้นลงทุนในกลุ่ม Domestic ที่ได้ปัจจัยบวกจากนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐ
.
“การบริหารเศรษฐกิจ” เป็นเรื่องท้าทายและถูกคาดหวังจาก “รัฐบาลทุกชุด” เสมอ ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจโลกมีความเชื่อมโยง เปลี่ยนแปลงและแข่งขันสูง การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของประเทศจึงมีความหมายต่อผลประโยชน์ประเทศและของประชาชนอย่างมาก