ห้องเม่าปีกเหล็ก

AU ราคาหุ้น สวนทางกำไร

โดย poomai
เผยแพร่ :
63 views

AU ราคาหุ้นยังแข็งแกร่ง สวนทางกำไรดิ่ง 78% โบรกฯ มองระยะสั้น “ยังไม่เห็นการฟื้นตัว”

เริ่มเข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/63 กันแล้ว หลายบริษัททำผลงานได้ดีกว่าที่คาด แม้จะมีปัจจัยกดดันจากการล็อคดาวน์ของภาครัฐ ในขณะที่หลายบริษัทผลงานปรับลดลงกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้ หนึ่งในนั้นคือ AU หรือ บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) หุ้นขนมหวานที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนมาต่อเนื่อง

 

โดยเย็นวันที่ 11 พ.ค. 2563 หลังตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดทำการ AU รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/63 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 13 ล้านบาท ปรับลดลงมากถึง 78% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสาเหตุหลักมาจากความกังวลการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และการประกาศมาตรการปิดพื้นที่เสี่ยง (ล็อคดาวน์) ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2563 ส่งผลให้ภาพรวมรายได้จากร้านขนมหวานปรับลดลง รวมถึงยอดขายจากการรับจ้างผลิต (OEM) ก็ลดลงเช่นเดียวกัน

 

อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิที่ปรับตัวลดลงส่งผลให้วันที่ 12 พ.ค. 63 ราคาหุ้นเปิดตลาดที่ระดับ 8.15 บาท ปรับตัวลดลง 4.12% โดยระหว่างวันราคาหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ 8.50 บาท ลดลง 2.30% ล่าสุดวันที่ 14 พ.ค. ราคาหุ้นของ AU ปิดตลาดที่ระดับ 8.50 บาท

 

จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น จะสังเกตได้ว่า แม้กำไรสุทธิจะได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อคดาวน์ แต่ราคาหุ้นกลับลดลงไม่มาก แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความนิยมที่นักลงทุนมีต่อ AU

 

แล้วหลังจากนี้ AU จะเป็นอย่างไร ไตรมาส 2/63 จะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้หรือไม่ หรือ ราคาที่ปรับลดลงในช่วงสั้นๆ จะเป็นโอกาสเข้าซื้อ วันนี้ Wealthy Thai นำความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์มาฝากกัน

 

คาดระยะสั้นยังไม่เห็นการฟื้นตัว

 

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ขณะนี้มีมุมมอง เชิงลบ ต่อการรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/63 ของ AU ที่ลดลง 78% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 73% ไตรมาสก่อนหน้า จากผลกระทบของ COVID-19 ซึ่งกระทบต่อรายได้ของร้านขนมหวานซึ่งเป็น core operation หลักอย่างรุนแรง ส่งผลให้รายได้รวมลดลงจากปัจจัย ดังนี้

 

1.การนักท่องเที่ยวที่ลดลง 2.จำนวนคนเดินในห้างสรรพสินค้าลดลงในช่วงเดือน ก.พ.2563 เป็นต้นไป และ 3.การปิดห้างสรรพสินค้าในช่วงปลายเดือนมี.ค.2563 ทำให้ profitability margin แย่ลงทั้ง GPM, EBITDA margin และ NPM จาก Product mix ที่เปลี่ยนไป และค่าใช้จ่ายคงที่ลดลงได้ช้ากว่ารายได้ที่ลดลง โดยฝ่ายวิจัยให้คำแนะนำ wait & see จนกว่าจะเห็นความชัดเจนของสถานการณ์ที่ดีขึ้น และการปรับตัวของ AU ให้เข้ากับพฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภค

 

ปรับกลยุทธ์ลดต้นทุน-ชะลอเปิดสาขาใหม่

 

ด้าน AU ก็ได้ชี้แจงผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมถึงการปรับตัวเพื่อรับมือกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในรายงานผลประกอบการด้วยเช่นกัน โดยการแพร่ระบาดของ COVID-19 และการปิดห้างสรรพสินค้า ส่งผลกระทบต่อยอดขายของสาขาอาฟเตอร์ ยู ทั่วประเทศ

 

ขณะที่บริษัทปรับตัวต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดด้วยการใช้กลยุทธ์การลดต้นทุนที่หลากหลาย อาทิ หยุดจ้างพนักงานนอกเวลาออกไปก่อน ในขณะที่พนักงานประจำจะถูกย้ายไปฝั่งบริการส่งอาหารที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในหลายสาขาแทน อย่างไรก็ตามบริษัทยังได้รับการยกเว้นค่าเช่าจนกว่าห้างสรรพสินค้าจะเปิดให้บริการตามปกติ แม้ว่าผลกระทบทางการเงินจากกลยุทธ์การลดต้นทุนยังไม่เห็นผลมากในไตรมาส 1/63 แต่คาดการณ์ว่าจะเห็นผลที่ชัดเจนในไตรมาส 2/63

 

ส่วนแผนธุรกิจในปี 2563 นั้น AU แจ้งในรายงานว่า เพื่อรับมือกับเศรษฐกิจที่เติบโตลดลง และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค ซึ่งนิยมการสั่งอาหารจากช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดย AU จะเปิดดำเนินการ 2-3 สาขาที่ลงทุนสร้างเรียบร้อยแล้วต่อไป หากจำนวนคนเดินห้างสรรพสินค้ากลับมาเท่ากับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาด จากเดิมที่วางแผนจะเปิดสาขาใหม่ 6 สาขา อย่างไรก็ตาม สาขาที่เหลือยังอยู่ในช่วงการต่อรอง และเลื่อนไปถึงต้นปีหน้า หรือเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลาย

 

แม้ระยะสั้นนักวิเคราะห์ยังไม่เห็นปัจจัยบวก แต่นักลงทุนยังคงให้ความนิยมในหุ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นต้องมารอดูกันว่า AU จะสามารถฟื้นตัวได้ตามที่คาดหวังหรือไม่

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก


poomai