ห้องเม่าปีกเหล็ก

กรณีศึกษา แผนพลิกฟื้นช่อง 3 ให้กลับมามีกำไร

โดย หญิงแม้น
เผยแพร่ :
64 views

กรณีศึกษา แผนพลิกฟื้นช่อง 3 ให้กลับมามีกำไร - MarketThink

 

 

ผลประกอบการล่าสุดของ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน)

หรือที่เราเรียกกันว่า ช่อง 3 กำลังอยู่ในสภาวะถดถอย

ครึ่งปี 2561 มีรายได้ 5,085 ล้านบาท ขาดทุน 147 ล้านบาท

ครึ่งปี 2562 มีรายได้ 4,145 ล้านบาท ขาดทุน 232 ล้านบาท

ซึ่งหากเรานำมาเปรียบเทียบกันจะพบว่า 6 เดือนแรกของปีนี้

รายได้ช่อง 3 ลดลง 18.5% ขณะที่ขาดทุนเพิ่มขึ้นถึง 57.8%

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ช่อง 3 มีรายได้น้อยลง และขาดทุนมากขึ้น ?

นั่นคือรายได้หลักอย่างการขายโฆษณาที่คิดเป็น 84 -87% จากรายได้ทั้งหมด

ของบริษัทกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น

ครึ่งปี 2562 รายได้จากการขายโฆษณาอยู่ที่ 3,533 ล้านบาท

ขณะที่ครึ่งปี 2561 รายได้จากการขายโฆษณาอยู่ที่ 4,471 ล้านบาท

ลดลงถึงเกือบๆ 21% เลยทีเดียว

เหตุผลหลักที่ภาพรวมรายได้จากการขายโฆษณาของช่อง 3 ลดลง ต่อเนื่อง

ก็คือเม็ดเงินโฆษณาในอุตสาหกรรมทีวีลดลง สวนทางกับช่องทีวีกลับเพิ่มขึ้น

ข้อมูลจากบริษัท เดอะนีลเส็นคอมปะนี ระบุว่า

ปี 2555 เม็ดเงินโฆษณาทีวี มีมูลค่าอยู่ที่ 68,000 ล้านบาท มีช่องทีวีอยู่ที่ 6 ช่อง

ขณะที่ปี 2561 มีมูลค่าอยู่ที่ 66,017 ล้านบาท แต่มีช่องทีวีอยู่ที่ 25 ช่อง

จะเห็นว่าเค้กโฆษณาก้อนเล็กลง เหตุผลมาจากผู้ชมหันไปรับชม Content ออนไลน์มากขึ้น

ซ้ำร้ายไปกว่านั้นช่องทีวีก็ยังเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมถึง 19 ช่อง

เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ รายได้และกำไรของช่อง 3 ก็ลดลงเรื่อยๆ

จนทำให้บริษัทขาดทุนในปีที่แล้ว จนมาถึงครึ่งปี 2562

เมื่อรายได้น้อยลง สิ่งที่ช่อง 3 เลือกคือแผนการลดต้นทุนของตัวเอง

การคืน 2 ช่องอย่าง 3Family และ ช่อง 3SD ที่เป็นมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล

ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ จะทำให้ช่อง 3 เหลือแค่ช่องหลักอย่าง 3HD

ที่น่าสนใจคือหลังจาก 2 ช่องดังกล่าวหยุดออกอากาศในวันที่ 30 กันยายน ที่จะถึงนี้

จะได้รับเงินชดเชยรวมกัน 842 ล้านบาท

แน่นอนว่าเมื่อ 2 ช่องยุติออกอากาศทำให้ช่อง 3 ต้องปลดพนักงานรวมกันถึง 200 กว่าชีวิต

ซึ่งจะเป็นการจ่ายเงินชดเชยตามอายุงาน เช่น 1 ปีชดเชย 3 เดือน

ส่วนพนักงานอายุงาน 20 ปีขึ้นไปได้ 20 - 21 เดือน

ซึ่งเงินชดเชยการคืนช่องที่ได้มาจะเพียงพอ

กับการจ่ายเงินค่าชดเชยพนักงาน 200 กว่าชีวิตหรือไม่นั้น คงยังไม่มีใครตอบได้

แต่ที่แน่ๆ หลังจากช่อง 3 ผ่านมรสุมธุรกิจครั้งนี้

จะทำให้ตัวเองมีต้นทุนการทำธุรกิจที่ต่ำกว่าในอดีตที่ผ่านมา

ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ก็คือก่อนหน้านี้ช่อง 3 เองก็มีการลดจำนวนพนักงานเป็นระยะๆ

ซึ่งเป็นเหตุผลหลัก ที่ทำให้ต้นทุนในการทำธุรกิจน้อยลงจากปีที่แล้ว

ครึ่งปี 2561 มีต้นทุนขายและบริการ 4,351 ล้านบาท

ครึ่งปี 2562 ที่ผ่านมา มีต้นทุนขายและบริการ 3,623 ล้านบาท ลดลงถึง 18.9%

ขณะเดียวกันเมื่อรายได้หลักอย่างขายโฆษณาลดน้อยลง

ช่อง 3 ก็หันไปเอาจริงเอาจังกับธุรกิจขายลิขสิทธิ์ละคร และอื่นๆ ไปยังต่างประเทศ

จนถึงการขยายช่องทางหารายได้ไปยังแพลตฟอร์มออนไลน์ให้มากขึ้นกว่าในอดีต

คงต้องติดตามดูกันต่อไป ในวันที่ช่อง 3 ลดต้นทุนตัวเองรอบด้าน

พร้อมกับเพิ่มช่องทางหารายได้ใหม่ๆ เข้ามาในบริษัท

จะสามารถลบคำว่า “ขาดทุน” ออกไปจากธุรกิจได้เร็วแค่ไหน ?

แต่สิ่งที่ตอบได้แน่ๆ ต่อไปนี้การทำธุรกิจของช่อง 3 จะคล่องตัวกว่าในอดีต

--------------------------------------------------------------------------------------------------------

ที่มา : คำอธิบายและการวิเคราะห ์ฝ่ายกิจการ ไตรมาส 1 และ 2 ปี 2562, news.thaipbs.or.th, TV Digital Watch

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหา่ข้อมูลจาก


หญิงแม้น