ห้องเม่าปีกเหล็ก

เมื่อ Fed ไม่ได้พูดแค่ “ดอกเบี้ย” แต่เป็นการทบทวนกรอบคิดใหม่

โดย eye
เผยแพร่ :
41 views

Jackson Hole 2025: เมื่อ Fed ไม่ได้พูดแค่ “ดอกเบี้ย” แต่เป็นการทบทวนกรอบคิดใหม่

 

 

Jackson Hole Economic Policy Symposium คืออะไร

ทุกเดือนสิงหาคม เมืองเล็ก ๆ ในรัฐไวโอมิงอย่าง Jackson Hole จะกลายเป็นเวทีเศรษฐกิจระดับโลก การประชุมนี้จัดโดย Federal Reserve Bank of Kansas City มาตั้งแต่ปี 1982 จุดแข็งของงานไม่ใช่ความใหญ่โต แต่คือ ความหนาแน่นของสมองระดับโลก ได้แก่ ผู้ว่าการธนาคารกลาง นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำ และเจ้าหน้าที่รัฐจากกว่า 70 ประเทศ มารวมตัวเพื่อถกเถียง “โจทย์ใหญ่” ที่จะกำหนดอนาคตเศรษฐกิจโลก

งานปีนี้จัดขึ้นระหว่าง 21–23 สิงหาคม 2025 ภายใต้หัวข้อ “Labor Markets in Transition: Demographics, Productivity, and Macroeconomic Policy” ซึ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในตลาดแรงงาน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสู่สังคมสูงวัยที่ทำให้แรงงานหดตัว ผลของนโยบายการย้ายถิ่นฐานที่เข้มงวดในสหรัฐ ไปจนถึงคำถามว่า AI จะกลายเป็นแรงผลัก productivity หรือจะเป็นตัวเร่งความเหลื่อมล้ำ ผู้ร่วมเวทีมีตั้งแต่ Claudia Goldin เจ้าของรางวัลโนเบล ไปจนถึง Ruth Porat แห่ง Alphabet and Google

 

Powell’s Take: เศรษฐกิจ ดอกเบี้ย และความเสี่ยงใหม่

 

เศรษฐกิจ

พาวเวลล์เริ่มต้นด้วยการยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐยัง “แข็งแกร่ง” แต่ก็ส่งสัญญาณว่าแรงขับเริ่มชะลอลง ตัวเลข GDP ครึ่งปีแรกขยายตัวเพียง 1.2% ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของปี 2024 ที่ 2.5% และสะท้อนการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่อ่อนแรงลงชัดเจน เขาเตือนว่าความท้าทายคือ การแยกให้ออกว่าเป็นเพียงวัฏจักรชั่วคราว หรือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง เพราะหากเป็นแบบหลัง นโยบายการเงินแทบไม่สามารถแก้ปัญหาได้

 

ดอกเบี้ยและนโยบายการเงิน

หัวใจสำคัญคือการ ปรับกรอบนโยบายการเงิน (Framework Review) พาวเวลล์ประกาศเลิกใช้นโยบาย Average Inflation Targeting ที่เคยอนุญาตให้เงินเฟ้อเกินเป้าเพื่อชดเชยอดีต และหันกลับมาใช้ Flexible Inflation Targeting ที่เน้นการยึดเหนี่ยวความคาดหวังเงินเฟ้อระยะยาวมากกว่า

เขาย้ำว่า Fed จะไม่เดินบนเส้นทางดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ล่วงหน้า แต่จะปรับตามข้อมูลและความเสี่ยงใหม่ ๆ และที่สำคัญ เขา เปิดช่องลดดอกเบี้ย โดยกล่าวว่า

“นโยบายยังอยู่ในระดับจำกัด แต่เมื่อสมดุลของความเสี่ยงเปลี่ยนไป Fed ก็ต้องเปลี่ยนตาม”

สะท้อนว่าเดือนกันยายนอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการผ่อนคลายนโยบาย

 

ภาษีและเงินเฟ้อ

พาวเวลล์กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า การขึ้นภาษีศุลกากรกำลังผลักราคาสินค้าให้สูงขึ้น แม้จะเป็นเพียง “การปรับขึ้นครั้งเดียว (one-time shift)” แต่ผลกระทบอาจลากยาวผ่านห่วงโซ่อุปทาน และยังเสี่ยงทำให้ความคาดหวังเงินเฟ้อในระยะยาวสั่นคลอน

 

เขาย้ำด้วยประโยคที่กลายเป็น highlight ของสุนทรพจน์ว่า

“We will not allow a one-time increase in the price level to become an ongoing inflation problem.”

“Fed จะไม่ปล่อยให้การขึ้นราคาครั้งเดียว กลายเป็นปัญหาเงินเฟ้อเรื้อรัง”

 

ตลาดแรงงาน

พาวเวลล์เลือกไม่ผูกตัวเองกับ “Natural Rate of Unemployment” เพราะตัวเลขนี้ไม่แน่นอนและเปลี่ยนไปตามนโยบาย กฎหมายแรงงาน หรือแม้แต่นวัตกรรมใหม่ ๆ เขาย้ำว่า การจ้างงานเต็มที่ไม่มีตัวเลขตายตัว และนโยบายการเงินต้องยืดหยุ่นเพื่อให้เกิดการจ้างงานสูงสุด โดยไม่กระตุ้นเงินเฟ้อเกินควร

และยังอธิบายว่า ในทศวรรษที่ผ่านมา สหรัฐฯ อยู่ใน “ภาวะปกติใหม่” ที่อัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์ การเติบโตต่ำ และ Phillips Curve ที่แบนลง หมายความว่า เงินเฟ้อไม่ได้ตอบสนองต่อการชะงักงันในเศรษฐกิจอย่างที่เคย สิ่งนี้ทำให้ Fed ต้องใช้เครื่องมือการเงินด้วยความระมัดระวัง ไม่ยึดติดสูตรสำเร็จ และพร้อมเปิดทางลดดอกเบี้ยหากตลาดแรงงานยังคงอ่อนแรง

 

เสียงก้องจาก Jackson Hole ถึง Wall Street

ทันทีหลังคำปราศรัย ตลาดการเงินตอบสนองอย่างรวดเร็ว ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น พันธบัตรสหรัฐแข็งค่า ส่งผลให้ผลตอบแทน (yields) ลดลง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลงอย่างชัดเจน สัญญาณดังกล่าวทำให้นักลงทุนปรับความคาดหวังว่า Fed จะลดดอกเบี้ยเร็วที่สุดในเดือนกันยายน โดยความน่าจะเป็นเพิ่มขึ้นจากราว 75% เป็น 84–85% ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังสุนทรพจน์

ขณะเดียวกัน Christine Lagarde ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกมาสนับสนุนท่าทีของพาวเวลล์ พร้อมย้ำว่า ความเป็นอิสระของธนาคารกลางคือเสาหลัก ที่ไม่ควรถูกการเมืองเข้ามาแทรกแซง ส่วน Financial Times ชี้ว่า พาวเวลล์เลือกใช้ถ้อยคำอย่างระมัดระวัง โดยเน้นประเด็นตลาดแรงงาน แต่เลี่ยงการพูดถึงโจทย์เชิงโครงสร้างระยะยาว ทำให้คำปราศรัยครั้งนี้ “ชัดเจนในระยะสั้น แต่ยังไม่ตอบโจทย์อนาคตไกล”

 

ความหมายที่มากกว่าดอกเบี้ย

Jackson Hole 2025 ไม่ใช่เพียงเวทีประกาศว่าจะ “ลดหรือไม่ลดดอกเบี้ย” แต่คือสัญญาณการเปลี่ยนผ่านของ Fed ที่หันกลับสู่กรอบการเงินที่ยืดหยุ่น เพื่อรับมือโลกที่ซับซ้อนกว่าที่เคย ตั้งแต่ตลาดแรงงานที่เปราะบาง ภาษีที่บิดเบือนราคา ไปจนถึง AI ที่สร้างทั้งโอกาสและความเสี่ยง

กว่า 40 ปีแล้วที่ประธานโวลเกอร์ถูกเชิญมายัง Jackson Hole เวทีเล็ก ๆ แห่งนี้ยังคงเป็น จุดบรรจบของความคิดที่หล่อหลอมเศรษฐกิจโลก และวันนี้ พาวเวลล์ก็ได้สืบต่อประเพณีนั้น ด้วยการเปิดกรอบคิดใหม่ที่สะท้อนว่า Jackson Hole ไม่ใช่เพียง “การประชุม” แต่คือ “ประเพณีของการเรียนรู้” ที่จะกำหนดอนาคตของ Fed และโลกการเงินต่อไป

คำถามใหญ่หลังจากนี้คือ ใครจะเป็นประธาน Fed คนต่อไปที่จะสานต่อ narrative จากเวทีนี้ได้อย่างทรงพลังเท่าเจอโรม พาวเวลล์?

.

เรื่องและภาพ: ดร.สุรเกียรติ เคหะบุญศิรหรรษา Research Analyst, Private Banking and Wealth Management

════════════════

 

 

ที่มา.  Bnomics by Bangkok Bank


eye