3 สิทธิพื้นฐาน ที่ผู้ถือหุ้นควรรู้ !

.
สำหรับนักลงทุนรายย่อยหลายๆคน ที่อาจจะซื้อหุ้นล็อตหนึ่งที่ละเล็ก ที่ละน้อย เพียง 100 - 200 หุ้น เหมือนแอด ก็อย่าเพิ่งด้อยค่ากดตัวเองจนเกินไป ว่าเรามันถือหุ้นน้อย ครั้นจะมีปาก - มีเสียงอะไรก็คงยาก ดังนั้น ก็ถือหุ้นมันอยู่เงียบๆแล้วกัน !
.
ถ้าใครที่กำลังมีความคิดเช่นนั้น แอดขอบอกเลยว่าอย่าคิดแบบนั้นเด็ดขาด เพราะไม่ว่าเรา จะเป็นผู้ถือหุ้นสัดส่วนเท่าไร ก็ย่อมมีสิทธิขึ้นพื้นฐานในการลงทุน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดเอาไว้
.
โดย ก.ล.ต. ระบุว่า เมื่อไหร่ก็ตาม ที่เราเข้าไปลงทุนในหลักทรัพย์ และตราสารของบริษัทใด บริษัทและธุรกิจเหล่านั้น จะถูกกำหนดโดยกฎหมายที่จะต้องให้สิทธิแก่ผู้ลงทุน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ลงทุนได้รับความเป็นธรรม, ไม่ถูกหลอก หรือถูกเอาเปรียบ ซึ่งสิทธิเหล่านี้ จะช่วยลดการสูญเสีย ขจัดการปฏิบัติที่ไม่ถูกกฎหมายและขาดจริยธรรมของบริษัทกับเราได้นั่นเอง
.
ทีนี้ เมื่อทุกคนเริ่มเข้าใจแล้วว่า เราทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันในฐานะผู้ถือหุ้น ทีนี้แอดจะขอพาทุกคนมาดู 3 สิทธิขั้นพื้นฐาน ที่ผู้ถือหุ้นอย่างพวกเราควรรู้เอาไว้ ว่า มันอยู่ในมือเรา และ จงอย่าลืมใช้สิทธิเหล่านั้นเป็นอันขาด
.
1.สิทธิก่อนตัดสินใจลงทุน : หมายถึงสิทธิในการรับข้อมูลข่าวสาร เพื่อจะวิเคราะห์และตัดสินใจว่าจะลงทุนในหุ้นของบริษัทหรือไม่ รวมถึงขั้นตอนและวิธีการจองซื้อหุ้นจากหนังสือชี้ชวน หรือ ไฟลิ่ง (Filing) และแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) อีกด้วย
.
ในส่วนนี้ ถือว่า เป็นข้อมูลที่สำคัญมากที่เราควรได้รับก่อนตัดสินใจเข้าลงทุน เพราะจะเเสดงถึงความโปร่งใส และ ศักยภาพของบริษัท ซึ่งหากบริษัทที่เราสนใจเข้าลงทุน ขาดข้อมูลชิ้นใดชิ้นหนึ่งไป ก็ทำให้เราต้องกลับมาตั้งข้อสงสัยได้แล้วว่า บริษัทดังกล่าว มีความโปร่งใสหรือไม่ ?
.
2.สิทธิเมื่อเป็นผู้ถือหุ้น : ประกอบด้วยสิทธิขั้นพื้นฐานที่ผู้ถือหุ้นจะมีสิทธิได้รับเงินปันผล ได้รับข้อมูลข่าวสารของกิจการอย่างต่อเนื่อง ได้เข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนน ได้รับสิทธิในการจองซื้อหุ้นออกใหม่ และสิทธิในการบริหารบริษัท อาทิ เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น, เสนอเพิ่มวาระการประชุม, เพิกถอนมติที่ประชุม ติดตามและตรวจสอบการทำงานของกรรมการ
.
สำหรับสิทธิเมื่อเราเป็นผู้ถือหุ้นนี้ ถือว่า เป็นอีกหนึ่งสิทธิที่สำคัญที่เราไม่ควรปล่อยผ่านเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันสามารถส่งผลกระทบโดยตรงถึงเงินในกระเป๋าของเราได้เลย หากบริษัทละเลยสิทธิผลประโยชน์ต่างๆ ที่แอดกล่าวมาข้างต้น นี่ก็เป็นสิทธิที่เราสามารถเรียกร้องได้ในการประชุมผู้ถือหุ้น
.
3.สิทธิในการร้องเรียนและฟ้องร้อง : ผู้ถือหุ้นมีสิทธิในการฟ้องร้อง เพื่อเรียกค่าเสียหายและผลประโยชน์คืนให้กับบริษัท หากกรรมการ หรือผู้บริหารของบริษัททำหน้าที่ไม่เหมาะสม เช่น ขาดความระมัดระวัง หรือไม่ซื่อสัตย์สุจริตจนส่งผลให้บริษัทได้รับความเสียหาย
.
ในส่วนของการร้องเรียนความไม่โปร่งใสในการบริหาร ก.ล.ต. ยังฝากย้ำเตือนมาว่า หากเราพบเบาะแสการกระทำความผิด หรือปัญหาอื่นใด เกี่ยวกับการลงทุนธุรกิจหลักทรัพย์ หรือธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ให้แจ้งมาที่ศูนย์ร้องเรียนของ ก.ล.ต.ทันที (โทร 1207) ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาสิทธิ และ ป้องกันการถูกเอาเปรียบของตัวเราเอง
.
และทั้งหมดนี้ ก็คือสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ถือหุ้น ที่แอดนำมาฝากทุกคนในวันนี้ หวังว่า พอทุกคนได้อ่านบทความชิ้นนี้แล้ว จะตระหนักรู้ถึงสิทธิที่เราพึงได้รับ และ รักษาสิทธินั้นอย่างมีขอบเขต เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้สิทธิ สำหรับวันนี้ ไปก่อนแล้ว บ๊าย บาย ...
